หุ้นทอง
ส่องหุ้นมองทอง : จังหวะซื้อทองสะสมปรับลงใกล้ 1,800 ดอลล์ หุ้นยัง Sideway Down เหตุขาดปัจจัยใหม่หนุน


จังหวะซื้อทองสะสมปรับลงใกล้ 1,800 ดอลล์ หุ้นยัง Sideway Down เหตุขาดปัจจัยใหม่หนุน

ราคาทองคำปรับตัวลง 79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปรับตัวสร้างจุดต่ำสุดที่ 1,848 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังสหรัฐยังไม่ได้ข้อสรุปในการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ในสหรัฐ เนื่องจากสภาคองเกรสและทำเนียบขาวยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น
 

ขณะเดียวกันการเสียชีวิตของ นางรูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐ ก็อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการอนุมัติมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจครั้งนี้ด้วย

นอกจากนี้ความคืบหน้าของการผลิตวัคซีน Covid-19 ที่มีความคืบหน้าต่อเนื่องทำให้ เราคาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ จะชะลอลง เนื่องจากต้องเตรียมเงินเพื่อสั่งซื้อวัคซีนมาให้แก่ประชาชนในประเทศ

ดังนั้น จึงคาดกรอบราคาทองคำในสัปดาห์นี้ 1,800-1,900 ดอลลาร์ตาอออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่  26,740-28,380 บาทต่อบาททองคำ โดยหากปรับตัวลงใกล้แนว 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มองเป็นจังหวะซื้อสะสม

ส่วนวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 ก.ย.) ดัชนีหุ้นไทยปิดปรับตัวลงเล็กน้อย และแกว่งตัวในกรอบแคบตลอดช่วงการซื้อขาย ซึ่งอ่อนแอกว่าตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก

โดยเราคาดว่าตลาดภายในประเทศยังคงกังวลเกี่ยวกับประเด็นการเมือง ประกอบกับความเสี่ยงจากการปรับใช้เกณฑ์ CELING/FLOOR กลับมาเหมือนเดิมที่ +/-30% ในวันที่ 1 ต.ค. ที่จะถึงนี้ ส่งผลให้ SET Index ปิดตลาดที่ 1,244.94 จุด -2.52 จุด -0.20% มูลค่าการซื้อขาย 46,000 ล้านบาท

ดังนั้น ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก จึงคาดทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวนแบบ Sideway Down เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่สนับสนุน นักลงทุนยังจับตาสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกำลังพิจารณามาตรการเยียวยาเศรษฐกิจวงเงินประมาณ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ที่คาดว่าจะมีการโหวตในสัปดาห์นี้ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังเป็นตัวกดดันตลาด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,220-1,265 จุด

ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ได้แก่ หุ้น KTC โดยมีราคาปิดที่ 34.50 บาท มีแนวรับที่ 33.75 บาท มีแนวต้านที่ 36.00-38.50 บาท แนวcut loss ที่ 33.25 บาท ทยอยไต่ระดับขึ้นจาก Bottom ล่าสุดทะลุเส้น EMA-200 โดยมีค่าสัญญาณซื้อจาก Slow Sto. หนุน คาดราคามี Momentum ขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านที่ 36.00-38.50 บาท

ส่วนอีกตัว คือ JWD โดยมีราคาปิดล่าสุดที่ 7.70 บาท มีแนวรับที่ 7.60 บาท มีแนวต้านที่ 7.95-8.50 บาท มีแนว cut loss ที่ 7.50 บาท โดยดีดตัวทำแท่งเขียวยาว โดยมีปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับ MACD เพิ่งพลิกตัวส่งสัญญาณ Bullish หากผ่าน 7.95 บาท ลุ้นทดสอบต้านถัดไปที่ 8.50 บาท

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 ก.ย. 2563 เวลา : 09:23:17
29-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 29, 2024, 11:33 pm