“เจเอเอส แอสเซ็ท” ผู้นำธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าร้านลูกตู้มือถือในชื่อ “IT JUNCTION” ปรับกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจให้แข็งแกร่ง ผนึกพันธมิตรในกลุ่มเจมาร์ทเปิดตัวแคมเปญใหญ่ “จ่าย 500 บาท สามารถรับเครื่องกลับบ้านได้เลยทันที รวมทั้ง ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้ ครอบคลุมโทรศัพท์มือถือจากแบรนด์ชั้นนำ หนุนตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยให้คึกคักรับโอกาส 5G ในช่วงปลายปี 63 “สุพจน์ สิริกุลภัสสร์” แม่ทัพใหญ่ เชื่อธุรกิจร้านลูกตู้ยังไปต่อได้ ด้วยการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ และการนำผลิตภัณฑ์ทางด้านการเงินเสริมทัพ
นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจพื้นที่เช่าและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้ง เป็นบริษัทในกลุ่ม บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจด้านการบริหารจัดการพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าในส่วนของโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยี ในชื่อ “IT JUNCTION” เพื่อนำมาจัดสรรให้เช่าต่อกับผู้ประกอบธุรกิจประเภทโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทร้านลูกตู้มือถือ โดยเป็นพันธมิตรกับศูนย์การค้าบิ๊กซี ปัจจุบัน มีสาขารวมกันทั้งสิ้น 33 สาขา ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ มีจำนวนร้านลูกตู้มือถือที่ดูแล 900 ราย พร้อมเตรียมขยายสาขาและจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง แผนการ Synergy ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเจมาร์ท เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย ได้แก่ การขายสินค้าพ่วงสินเชื่อ หรือประกัน รวมทั้ง การนำสินค้าเทคโนโลยีเข้ามาจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น และจะเป็นสตอรี่ใหม่ๆ ยกระดับร้านลูกตู้ในประเทศไทยให้เป็นมากกว่าร้านมือถือ
ทั้งนี้ ล่าสุด IT Junction จับมือเจมาร์ท เปิดตัวแคมเปญใหญ่ “จ่าย 500 บาท สามารถรับเครื่องกลับบ้านได้เลยทันที รวมทั้ง ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้ 6 เดือนแรกจ่ายเบาๆ แบ่งเบาภาระ” ครอบคลุมโทรศัพท์มือถือจากแบรนด์ชั้นนำ โดยมีร้านที่เข้าร่วมแคมเปญจำนวน 26 สาขา ตั้งเป้ายอดขายจากแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับเดือนละ 10,000 เครื่อง เนื่องจากมองว่า 5G ที่เข้ามาจะกระตุ้นความต้องการอุปกรณ์สื่อสารและสินค้าเทคโนโลยีที่รองรับ 5G ซึ่งมีราคาต่อเครื่องสูง และแคมเปญนี้จะทำให้ลูกค้าที่ไม่มีกำลังซื้อโทรศัพท์มือถือด้วยเงินก้อน สามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นด้วย
ทั้งนี้ IT Junction มีอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy rate) ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 80% มีพื้นที่เช่าให้บริการเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 200 ตารางเมตร เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และสูงสุดอยู่ที่ 1,000 ตารางเมตร รองรับกำลังซื้อในทำเลที่มีศักยภาพ โดยมองว่า เนื่องจากมีการปรับกลยุทธ์ปิดพื้นที่สาขาที่ไม่ทำกำไร ปรับขนาดพื้นที่ให้ลดลงเพียงพอต่อกำลังซื้อ และกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทำให้ ภาพรวมธุรกิจของ IT Junction ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา และแม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 บริษัทฯ ยังคงความสามารถในการบริหารจัดการภายในได้เป็นอย่างดี และมีสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ ทั้งสินเชื่อ J Money และ สินเชื่อรถทำเงินของ SINGER ช่วยเหลือร้านค้ารายย่อยให้สามารถยืนหยัดได้ พร้อมทั้งมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้อื่นๆ จากการขยายผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มสินเชื่อและสินค้าเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น ชูจุดแข็งเป็นบริษัทในกลุ่มเจมาร์ท ทำให้ร้านลูกตู้ไม่ต้องสต๊อกของ เป็นโอกาสในการขายและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร
“ IT JUNCTION เราเป็นตลาดมือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ตลอดเวลา 20 ปีในการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการเติบโตในธุรกิจนี้ โดยธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าร้านลูกตู้ มีสัดส่วนรายได้ราว 40% ของรายได้รวม เรามองเห็นตลาดอีก segment ที่เป็นฐานลูกค้ากลุ่มสำคัญ ทั้งคนวัยทำงาน และกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในหัวเมืองจังหวัดต่างๆ ซึ่งมีความต้องการมือถือและสินค้าเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในการใช้ชีวิตในยุคที่ประเทศไทยกำลังปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัล และภารกิจที่สำคัญของเราคือ จะทำอย่างไรให้ผู้ประกอบธุรกิจร้านลูกตู้มีกำไรจากการขายที่เพิ่มขึ้น จึงจับมือพันธมิตรรายใหม่ๆ ในการนำผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเข้ามาให้บริการเพิ่มขึ้น และโปรโมชั่นที่ร้านค้าอื่นๆ ไม่สามารถให้ได้ เนื่องจากเราเป็นบริษัทในกลุ่มเจมาร์ท ซึ่งเป็นผู้นำร้านค้าปลีกมือถือรายใหญ่ เป็นอีกกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจมือถือในประเทศไทยให้แข็งแรง” นายสุพจน์ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ สำหรับท่านที่สนใจเป็นหนึ่งในครอบครัว IT JUNCTION สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/It.Junction/ หรือติดต่อ 0885277997
ข่าวเด่น