ราคาทองคำโลกในเดือนกันยายนปรับตัวลง 82.0 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนขายสัญญาทองคำออกมา เพื่อทำกำไร หลังจากปรับตัวขึ้นเป็นเวลาหลายเดือน และนักลงทุนผิดหวังที่เฟดไม่ได้เปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่
ขณะที่ยังคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน ด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.10% และส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ หากมีความจำเป็น
นอกจากนี้นักลงทุน ยังลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังมีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ได้ทำการทดลองดังกล่าวจะมีขึ้นในสถานที่กว่า 200 แห่งทั้งในสหรัฐและประเทศต่างๆ ซึ่งรวมถึง อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี โคลอมเบีย เม็กซิโก เปรู และแอฟริกาใต้ โดยการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ของ J&J ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่บริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นาทำการทดลองวัคซีนโดยมีอาสาสมัครเพียง 30,000 รายได้
ทั้งนี้ จากความผันผวนของราคาทองคำฝ่ายวิจัยประเมินกรอบทองคำในเดือนนี้ที่ 1,850-1,930 กอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแนะนำให้หาจังหวะขายเมื่อราคาปรับตัวขึ้น เนื่องจากทองคำปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อมีข่าวลบทำให้เรามีความกังวลเพิ่มขึ้นถึงการจบรอบ เราจึงแนะนำให้ลดสถานะและขายเมื่อราคาปรับตัวขึ้น
ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นศุกร์ที่ผ่านมา (9 ต.ค.) ดัชนีปิดปรับตัวลงกว่า 7.69 จุด และแกว่งในแดนบวกสลับลบตลอดช่วงการซื้อขาย คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่
โดยเราคาดว่า เป็นแรงขายทำกำไรหลังจากตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลายวัน และนักลงทุนภายในประเทศส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,267.16 จุด -7.69 จุด -0.60% มูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กคาดทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แสดงมุมมองบวกว่า มีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงกับพรรคเดโมแครตเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่ปัจจัยในประเทศได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ช้อปดีมีคืนคาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250-1,320 จุด
ขณะหุ้นที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น KAMART โดยมีราคาปิดล่าสุดที่ 3.80 บาท แนวรับ 3.68 บาท แนวต้าน 4.00-4.20 บาท จุด cut loss ที่ 3.64 บาท ราคาอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยมีค่าสัญญาณบวกจาก Slow Sto.+MACD ส่งสัญญาณซื้อต่อเนื่อง คาดราคามี Momentum ขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านที่ 4.00-4.20 บาท
ส่วนหุ้นอีกตัวหนึ่ง คือ TRUBB ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 1.70 บาท แนวรับอยู่ที่ 1.66 บาท แนวต้านอยู่ที่ 1.85-2.10 บาท และจุด cut loss 1.64 บาท ดีดตัวทำแท่งเขียว พร้อม Volume เริ่มกระตุก และ MACD เตรียมพลิกตัด Signal Line ส่งสัญญาณบวก หากผ่าน 1.85 บาทได้ ลุ้นทดสอบต้านถัดไปที่ 2.10 บาท
ข่าวเด่น