หุ้นทอง
บล.ไทยพาณิชย์วิเคราะห์ แม้ยังขาดปัจจัยหนุน และมีปัจจัยลบจากการแพร่ระบาด แต่มองdownside เริ่มจำกัดบริเวณ 1170-1180 จุด


กลยุทธ์การลงทุน:


คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1180-1200 จุด โดยแม้ SET ยังขาดปัจจัยหนุน และเผชิญปัจจัยลบหลักจากการแพร่ระบาดระลอกสอง รวมถึงระวังความผันผวนของตลาดจากการเลือกตั้งสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. ทำให้ SET ยังปรับตัวลงได้ อย่างไรก็ตาม มอง downside เริ่มจำกัดที่ 1170-1180 จุด และการควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีในเอเชีย ทำให้อัตราการปรับลงของตลาดหุ้นในเอเชีย รวมถึง SET จะน้อยกว่า ด้านการตัดสิทธิ GSP ต่อสินค้าไทยจากสหรัฐ มองเป็นเพียง Sentiment เชิงลบระยะสั้น จากผลกระทบที่จำกัด กลยุทธ์ คงพอร์ตหลักที่ 50% และรอสัญญาณซื้อก่อน ส่วนการซื้อช่วงนี้เน้น trading ไปก่อน
 

ล็อคเป้าลงทุน:

# พอร์ตหลักยังคงให้ wait & see รอสัญญาณซื้อ ส่วนพอร์ตระยะสั้นยังคงเน้น Trading ขึ้นขาย-ลงซื้อ ในหุ้นที่แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติและสถาบันจำกัดในช่วงสั้น หุ้นขนาดเล็ก แนะนำ IIG WICE ZIGA ILINK NOBLE TNP SVI ส่วนหุ้นขนาดใหญ่ที่น่าสนใจ คือ BAM MTC BDMS

# ตลาดยังคงผันผวนก่อนหน้าการเลือกตั้งสหรัฐและการ lockdown ในยุโรป เรามองว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับยุโรปชัดเจนอย่าง MINT CRC อาจจะต้องระมัดระวังในช่วงนี้

# หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากวัคซีนอย่างถุงมือยางและ packaging ยังน่าสนใจ แนะนำ NER STA STGT TRUBB

ประเด็นสำคัญ

# ตลาดหุ้นสหรัฐร่วง ยุโรปขึ้น ราคาน้ำมันลดลงต่ำสุดรอบ 5 เดือน

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลง กดดันจากหุ้น Tech รวมทั้งปัจจัยลบอื่นๆ ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ยังพุ่งสูง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังตกลงไม่ได้ และความไม่แน่นอนการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐวันอังคารนี้ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปรับเพิ่มขึ้นหลัง GDP 3Q63 ของยุโรปดีกว่าคาด ด้านราคาน้ำมันลดลงจากความกังวลอุปสงค์ชะลอตัว

# สหรัฐตัดสิทธิ์ GSP ไทย ไม่น่ากระทบส่งออก-บจ.มากนัก

โดยสหรัฐตัดสิทธิพิเศษทางการค้า (GSP) สินค้าไทย มีผล ธ.ค. นี้ 147 รายการ มูลค่าราว 600-700 ล้านเหรียญต่อปี ซึ่งประเมินกันว่าหากต้องเสียภาษีเพิ่มจะอยู่ที่เพียง 20-30 ล้านเหรียญ เรามองว่าผลกระทบไม่มากทั้งในภาคส่วนการส่งออกและผลกระทบกับบริษัทจดทะเบียน แต่จะกระทบกับ sentiment ตลาดที่ยังไม่ได้มีข่าวดีในช่วงนี้

# Semiconductor ยังดีทั้งกำไรและการส่งออกของเกาหลีใต้

เช่นเดียวกับยอดขายทั่วโลกที่ยังยืนยันไปในทิศทางนั้น แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดน่าจะ sell on fact เพราะสะท้อนข่าวดีไปแล้ว เรายังมองในภาพนั้น ดังนั้นหากระดับ PE เกิน 25 เท่า ไม่แนะนำไล่ราคา โดยให้รอเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลง เรายังแนะนำ HANA SVI

Wealth Strategy

แนะนำหุ้นต่างประเทศ L’Oreal (OR.FP) ผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความงาม เป็นบริษัทที่รายได้และกำไรมีความผันผวนต่ำมาก คาดยอดขายในตลาดเกิดใหม่โต 15% ต่อปี กำไรขึ้นต้น 73% ขณะที่ Beta เทียบกับ SET อยู่ที่ 0.78 ช่วยลดความผันผวนของ Portfolio ได้

บทวิเคราะห์วันนี้

กลุ่มท่องเที่ยว – เริ่มดีขึ้น แต่ยังต้องใช้เวลาอีกระยะจึงจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

MBKET – 3Q63: กำไรตามคาด; ผลตอบแทนจากเงินปันผลดี

STANLY – 2QFY64: ตามคาด พลิกกลับมาทำกำไร

WINNER – การเติบโตของกำไรไม่เด่น แต่มั่นคงและให้เงินปันผลสูง

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 พ.ย. 2563 เวลา : 11:31:18
30-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 30, 2024, 4:51 am