บมจ. สบาย เทคโนโลยี ผู้นำด้านการให้บริการรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 11 พ.ย. นี้ ด้วย มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,512.50 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “SABUY”
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า mai ยินดีต้อนรับ บมจ. สบาย เทคโนโลยี ธุรกิจตู้เติมเงินและตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ในกลุ่มบริการ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SABUY” ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563
SABUY เป็นผู้พัฒนาด้านเทคโนโลยีการเงินที่มี Ecosystem สำหรับธุรกิจค้าปลีกของตนเอง โดยแบ่งการดำเนินธุรกิจหลักเป็น 4 ธุรกิจ ได้แก่ 1) ธุรกิจตู้เติมเงินอัตโนมัติ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “เติมสบายพลัส” ซึ่งปัจจุบันให้บริการมากกว่า 52,000 ตู้ทั่วประเทศ 2) ธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ภายใต้แบรนด์ “เวนดิ้ง พลัส” และ “6.11 select” รวมกันมากกว่า 5,700 ตู้ 3) ธุรกิจติดตั้งและวางระบบศูนย์อาหาร ปัจจุบันมีศูนย์อาหารที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท 213 แห่ง และ 4) ธุรกิจให้บริการการชำระเงิน ภายใต้ชื่อ “สบาย มันนี่”
SABUY มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1,005 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 887.98 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 117.02 ล้านหุ้น โดยบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายน 2563 ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 292.55 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,512.50 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจำหน่าย
นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยผลักดันให้บริษัทขยายธุรกิจการให้บริการรับชำระเงิน และการขยาย Ecosystem การรับชำระเงินได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง รวมถึงช่วยผลักดันการขยายธุรกิจ New Retail หรือการค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่ตอบสนองตอบไลฟ์สไตล์ ของผู้บริโภคทุกกลุ่มทั่วประเทศ โดยบริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายจุดให้บริการ และขยายธุรกิจการให้บริการชำระเงินเพื่อสร้างการเติบโตให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ SABUY จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO 3 ลำดับแรก ได้แก่ กลุ่มครอบครัวนายชูเกียรติ ถือหุ้น 29.85 % กลุ่มครอบครัวนายอานนท์ชัย วีรประวัติ ถือหุ้น 28.45% และนายวรวิทย์ ชัยลิปมนตรี ถือหุ้น 2.90% โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่างๆ ตามกฎหมาย
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.sabuytechnology.com และที่ www.set.or.th
ข่าวเด่น