หุ้นทอง
ส่องหุ้น มองทอง : แนะทยอยซื้อทองสะสมหลังราคาต่ำกว่า 1,900 ดอลล์ ผลทดลองวัคซีนโควิดดีหนุนหุ้นไปต่อ


แนะทยอยซื้อทองสะสมหลังราคาต่ำกว่า 1,900 ดอลล์

ผลทดลองวัคซีนโควิดดีหนุนหุ้นไปต่อ

สำหรับราคาทองคำนั้น ได้ปรับตัวลง 72 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ระดับ 1,878 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากไฟเซอร์ และ BioNTech แถลง ผลการทดลองบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งไฟเซอร์และ BioNTech พัฒนาร่วมกัน มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ซึ่งผลการพัฒนาวัคซีนดังกล่าว ถือเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับวิทยาศาสตร์และมนุษยชาติ
 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า อาทิ ดัชนีหุ้นในตลาดต่างๆ ทั่วโลก

ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มตลาด และคาดหวังปัจจัยสำคัญ 3 ประการ ซึ่งได้แก่ การเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะเป็นไปอย่างราบรื่น วัคซีนที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อทองคำเพิ่มเติม

ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำให้ทยอยซื้อสะสมอีกครั้งหลังราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแนะนำให้ทยอยสะสมในกรอบ 1,850-1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่  26,530-27,310 บาทต่อบาททองคำ และให้ขายออกเมื่อราคาสูงกว่า 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) ปิดบวกกว่า 10.16 จุด ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังธปท.อนุมัติให้จ่ายปันผลงวดผลประกอบการปี 2563 ได้ โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,346.47 จุด +10.16 จุด +0.76% มูลค่าการซื้อขาย 9.2 หมื่นล้านบาท

ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อหลัง ไฟเซอร์และ BioNTech ได้ประกาศผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 ได้ผลมากกว่า 90% ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และธปท. อนุมัติ ธนาคาร จ่ายปันผลงวดปี 63 ได้แต่ต้องไม่เกินอัตราจ่ายปี 2562 และไม่เกิน 50% ของกำไรปี 2563เป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นกลุ่มธนาคารเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามเรามองปัจจัยการเมืองในประเทศยังคงกดดันตลาด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,313-1,360 จุด

ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น BBL มีราคาปิดล่าสุดที่ 116.50 บาท โดยกราฟสร้าง Higher High หลังพักตัวมานานกว่า 4 เดือน โดยการการปรับตัวขึ้นรอบนี้มีวอลุ่มสนับสนุน สอดคล้องกับค่าสัญญาณ MACD และ RSI ปรับตัวขึ้นสนับสนุน ทั้งนี้แนวรับอยู่ที่ 114.00 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ระหว่าง 118.00-120.00 บาท และมีจัด cut loss 113 บาท

ส่วนอีกหุ้นคือ HTC โดยมีราคาปิดล่าสุดที่ 36.25 บาท ซึ่งราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นตามภาพ โดยมีแรงซื้อหนุนเข้ามาหลังสร้างฐานได้ 3 วันทำการ พร้อมวอลุ่มที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับค่าสัญญาณ MACD และ RIS ที่ชี้ขึ้นสนับสนุน ซึ่งมีแนวรับอยู่ที่ 35.50 บาท มีแนวต้านระหว่าง 38.00-39.00 บาท และมีจุด cut loss ที่ 35.00 บาท
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 พ.ย. 2563 เวลา : 09:20:59
30-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 30, 2024, 7:44 am