วินด์เอนเนอร์ยี่ เล็งจ่ายปันผลจากกำไรงวดปี 63 ไม่น้อยกว่า 15 บาทต่อหุ้น หลังจากจ่ายระหว่างกาลจากกำไรงวด 6 เดือนแรกของปี 63 ไปแล้ว 1.40 บาทต่อหุ้น พร้อมเผยกำลังลม 9 เดือนแรกปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 4.91 เมตรต่อวินาที ต่ำสุดในรอบ 20 ปี ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 6,300 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,840 ล้านบาท คาดหวังตีตื้นในไตรมาสสุดท้าย เหตุเป็นช่วงกำลังลมดีที่สุดของปี
นายกำธร กิตติอิสรานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างพิจารณาการจ่ายเงินปันผลประจำปี จากกำไรในงวดปี 2563 ไม่น้อยกว่า 15 บาทต่อหุ้น หลังจากได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ไปแล้วที่ 1.40 บาทต่อหุ้น นับเป็นการจ่ายเงินปันผลครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
คณะกรรมการบริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าฐานะการเงินของ WEH ในปัจจุบันมีความแข็งแกร่ง เป็นบริษัทไม่มีหนี้ ในแต่ละปีมี Ebitda ราว 8,000 ล้านบาท ส่งผลให้มีสภาพคล่องมากเพียงพอรองรับการดำเนินธุรกิจ จึงมีแนวคิดจะจัดสรรกำไรจ่ายเงินปันผลเพื่อตอบแทนคืนให้กับผู้ถือหุ้น
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2563 มีรายได้รวม 6,300 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,840 ล้านบาท สาเหตุเนื่องจากกำลังลมช่วง 9 เดือนแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 4.91 เมตรต่อวินาที ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 20 ปี แต่บริษัทคาดหวังว่าผลประกอบการในไตรมาส 4 ของปี 2563 จะฟื้นตัวตามกำลังลม เพราะโดยปกติเป็นไตรมาสที่มีกำลังลมดีที่สุด และผลิตกำลังลมในสัดส่วน 40% ของกำลังลมทั้งปี
ปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินการจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าครบทั้ง 8 โรง กำลังการผลิตรวม 717 เมกะวัตต์ ครอบคลุมพื้นที่ราว 5 แสนไร่ใน 2 จังหวัด คือ นครราชสีมา ชัยภูมิ
“บริษัทยังคงมองหาโอกาสการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต และไม่จำกัดอยู่ที่พลังงานลม โดยให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด เพียงแต่ให้ความสำคัญกับพลังงานลมเป็นลำดับแรก เพราะมีความเชี่ยวชาญ แต่ยอมรับว่าพลังงานลมในประเทศยังต้องรอนโยบายจากภาครัฐ ทำให้บริษัทขยายโอกาสการลงทุนไปต่างประเทศ เพื่อกระจายฐานรายได้ และลดความเสี่ยงในภาวะกำลังลมในประเทศอ่อนแรง โดยโครงการที่เป็นไปได้และมีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุด คือ โครงการในประเทศเวียดนาม เนื่องจากมีความต้องการสูง และพบว่ามีกำลังลมในระดับที่ดีกว่าประเทศไทย” นายกำธรกล่าว
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมด้านแหล่งเงินลงทุน โดยได้ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงิน 2,000 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรอง (กรีนชู) อีก 1,000 ล้านบาท อายุหุ้นกู้ 1 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.5 - 6.5 % วัตถุประสงค์เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ข่าวเด่น