กรมการขนส่งทางบก แนะ!!! รถยนต์อายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี รถจักรยานยนต์อายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี ชำระภาษีล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ ดำเนินการได้ทุกที่ทุกเวลา รอรับเอกสารทางไปรษณีย์ สะดวกสบายไม่ต้องเดินทางมาติดต่อที่สำนักงานขนส่ง พร้อมเผย!!! สถิติการใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีในกรุงเทพมหานคร เดือนตุลาคม 2563
นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกอำนวยความสะดวกให้เจ้าของรถและผู้ที่ต้องการชำระภาษีรถประจำปี สามารถเลือกใช้บริการได้หลากหลายช่องทาง รถที่ไม่เข้าข่ายต้องนำรถไปตรวจสภาพ อาทิ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้), รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่ได้เกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก ที่ไม่มีภาษีค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 1 ปี ไม่ถูกอายัดทะเบียน ไม่ใช่รถที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทก๊าซ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ กลุ่มนี้สามารถใช้บริการช่องทางชำระภาษีผ่านระบบออนไลน์ได้ทุกช่องทาง ทั้งผ่านทางเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th, แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax, เคาน์เตอร์เซอร์วิส, โมบายล์แอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet ซึ่งไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ โดยเมื่อชำระภาษีรถประจำปีเรียบร้อยแล้ว รอรับเครื่องหมายการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน และผู้ที่ชำระภาษีรถผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ระหว่างนี้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ไม่ต้องเสียค่าจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ ส่วนรถที่เข้าข่ายต้องตรวจสภาพก่อนชำระภาษีประจำปี กรมการขนส่งทางบกมีช่องทางให้บริการรองรับที่หลากหลายเช่นกัน เช่น บริการชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถหรือบริการเลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax), การรับชำระภาษีที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์-อาทิตย์ ภายใต้โครงการช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax), ที่ทำการไปรษณีย์, ธนาคารพาณิชย์ที่ร่วมโครงการกับกรมการขนส่งทางบก หรือที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ โดยแนะนำให้ชำระภาษีรถประจำปีล่วงหน้า 90 วันก่อนวันสิ้นอายุภาษี
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถิติการให้บริการชำระภาษีรถประจำปีในเขตกรุงเทพมหานคร เดือนตุลาคม 2563 มีผู้ใช้บริการจำนวนทั้งสิ้น 458,923 คัน แบ่งเป็นการใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 มากที่สุด จำนวน 330,797 คัน รองลงมาคือการใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 65,103 คัน ชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์-อาทิตย์ จำนวน 29,242 คัน ผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/ จำนวน 20,484 คัน ศูนย์บริการร่วมคมนาคมเชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน จำนวน 3,756 คัน เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำนวน 7,777 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 782 คัน ผ่านแอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet จำนวน 395 คัน ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) จำนวน 351 คัน ในส่วนของบริการชำระภาษีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax มีผู้ใช้บริการจำนวน 221 คัน และผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ร่วมโครงการ จำนวน 15 คัน ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี เพื่อสร้างมาตรฐานคุณภาพการบริการภาครัฐที่เข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง
ข่าวเด่น