ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 54 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ระดับ 1,841 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยราคาทองคำปรับตัวลงตั้งแต่ต้นสัปดาห์เนื่องจาก ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 กระตุ้นให้นักลงทุนขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยออกมาเพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า อาทิ ตลาดหุ้น

ทองคำได้ปรับตัวขึ้นช่วงปลายสัปดาห์หลังประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา ต่างก็ออกมาเรียกร้องให้นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา เร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ ตามข้อเสนอของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน เพื่อส่งความช่วยเหลือให้กับชาวอเมริกันได้ก่อนสิ้นปีนี้ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเป็นปัจจัยหนุนต่อทองคำ

ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ยังมีมุมมองลบต่อราคาทองคำในระยะสั้นหลังปรับตัวลงหลุดระดับ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมา โดยเรามองว่าการรีบาวด์ในรอบนี้มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 1,850-1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่  26,440-27,220 บาทต่อบาททองคำ

โดยหากเข้าใกล้แนวต้าน 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ทยอยขายออก เนื่องจากวัคซีนโควิดมีความคืบหน้าต่อเนื่องทำให้ประเทศต่างๆ ต้องสำรองเงินสำหรับวัคซีน และประเด็นกดดันเพิ่มเติมคือหากเฟดปรับลดงบดุลจะเป็นสัญญาณของการจบรอบขาขึ้นของทองคำในครั้งนี้

ส่วนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 ธ.ค.) ดัชนีปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เป็นไปในทิศทางเดียวกัยตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมีแรงหนุนจากเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าในหุ้นกลุม ENERG และ BANK ขณะที่ปัจจัยกดดันหลักอยู่ที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,449.83 จุด +11.51 จุด +0.80% มูลค่าการซื้อขาย 8.28 หมื่นล้านบาท

ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นในลักษณะ Sideway Up โดยมีแรงหนุนจาก Fund Flow ของนักลงทุนต่างประเทศที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัยังมีแรงกดดันจากการพบติดโควิด-19ในประเทศ และประเด็นกับเมืองเป็นหลัก คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,410-1,500 จุด

ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ 2 หลักทรัพย์ ได้แก่ AOT ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 66.25 บาท โดยดีดตัวมำแท่งเขียวยาวทะลุเส้น EMA ทุกระดับ โดย Slow Sto.เตรียมวกกลับส่งสัญญาณบวกหากผ่านแนวต้านแรกที่ 67.50 บาทได้ ลุ้นทดสอบ High เดิมที่ 69.25 บาท ทั่งนี้มีแนวรับที่ 65.50 บาท แนวต้านอยูที่ 67.50-69.25 บาท และจึด cut loss ที่ 65.00 ขาท

และหุ้น BLA มีราคาปิดล่าสุดที่ 22.20 บาท ราคาหุ้นอยู่ในกรอบทิศทางขาขึ้น พร้อมปริมาณการซื้อขายสะสมอย่างต่อเนื่อง และ MACD ส่งสัญญาณ Bullish หากผ่าน High เดิมที่ 22.50 บาทได้ จะมีต้านถัดไปที่ 23.20 บาท ส่วนราคาแนวรับอยู่ที่ 21.70 บาท แนวต้านระหว่าง 22.50-23.20 บาท และจุด cut loss อยู่ที่ 21.50 บาท