เมื่อฤดูหนาวมาเยือน วิกฤตมลพิษทางอากาศ PM 2.5 ก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขยอมรับว่าสภาพอากาศในหลายพื้นที่มีปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานในบางช่วงเวลาและบางวัน หลายจังหวัดเริ่มออกมาตรการเฉพาะหน้า เพื่อบรรเทาสถานการณ์
แต่แนวโน้มวิกฤต PM 2.5 ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากฝุ่นละอองขนาดเล็กเหล่านี้ฟุ้งกระจายอยู่ทุกที่ ทั้งนอกบ้านและภายในบ้าน ซึ่งเมื่อไรที่ฝุ่นพิษนี้สะสมอยู่ในร่างกายจำนวนมากก็อาจเกิดผลกระทบต่อสุขภาพแบบระยะยาวได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการมีตัวช่วยอย่างเครื่องฟอกอากาศ เพื่อดูแลคนในบ้านที่เรารักให้มีอากาศสะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ จึงเป็นเรื่องจำเป็น
ภัยร้ายที่มองไม่เห็น อันตรายกว่าที่คิด
ฝุ่นละออง PM 2.5 รวมถึงฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่าอย่าง PM1.0 นั้นมีขนาดเล็กมากจนสามารถแทรกผ่านผิวหนัง ซึมผ่านสู่ระบบทางเดินหายใจ และกระแสเลือดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมีผลร้ายต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะหัวใจ อาจรุนแรงถึงขั้นก่อให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว หัวใจวาย และอาจสะสมจนเกิดเป็นโรคมะเร็งได้[2] สถิติจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศมากกว่า 3 ล้านคนต่อปีทั่วโลก
ดัวยเหตุนี้ การรับมือกับฝุ่นละอองขนาดเล็ก จึงเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นต้องป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ เพราะสุขภาพที่ดีไม่ใช่สิ่งที่จะปล่อยปะละเลยได้ วิธีการป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 มีหลายทาง อาทิ สวมใส่หน้ากากอนามัย N95 ละเว้นการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และหมั่นตรวจสอบคุณภาพอากาศหากจำเป็นต้องออกจากบ้าน แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันที่คนส่วนมากใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น คุณภาพอากาศภายในบ้านจึงทวีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เลือกเครื่องฟอกอากาศอย่างไร ให้ปลอดภัยจาก PM 2.5
ในตลาดเครื่องฟอกอากาศทุกวันนี้ มีตัวเลือกมากมาย ตามเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพในการดักจับเชื้อแบคทีเรียที่ลอยมากับอากาศ รวมไปถึงความสามารถในการดักกลิ่น กรองกลิ่นต่างๆ โดยเฉพาะกับฝุ่นภายในบ้านที่มีขนาดเล็กประมาณ 10 ไมครอน (PM10) ที่ยังพอมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
การเลือกเครื่องฟอกอากาศจึงควรคำนึงถึงขนาดห้องเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นจึงควรเปรียบเทียบคุณลักษณะของเครื่องฟอกว่ามีหน้าจอแสดงระดับค่าฝุ่นละอองที่แม่นยำ และสามารถดักจับฝุ่นและกรองฝุ่นที่มีอนุภาคเล็กกว่า PM2.5 อย่าง PM1.0 ทำให้มั่นใจได้ว่าอากาศจะสะอาดบริสุทธิ์ อีกทั้งยังต้องสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของผู้ใช้ได้อย่างครอบคลุม เช่น การควบคุมเปิดปิดและเช็คคุณภาพอากาศก่อนเข้าบ้าน นอกจากนี้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการกระจายอากาศก็เป็นปัจจัยสำคัญเพื่อให้คุณพักผ่อนที่บ้านได้อย่างเต็มที่ดังนั้นการเลือกซื้อเครื่องฝอกอากาศจึงต้องคำนึงถึงฟีเจอร์เหล่านี้ เพื่อให้ได้ประสบการณ์การใช้งานที่ตรงใจ และเข้ากับการใช้ชีวิตที่สุด
เลือกซัมซุง Cube เพื่อมอบอากาศบริสุทธิ์ให้บ้านคุณ
เครื่องฟอกอากาศ Samsung Cube AX9500 (ซัมซุง คิวบ์ AX9500) คือโซลูชันที่จะเข้ามาตอบโจทย์สุขภาพทางเดินหายใจของทุกคนในครอบครัวด้วยคุณสมบัติการฟอกอากาศได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมเลเซอร์ตรวจจับฝุ่น PM (Laser PM sensor) ที่สามารถแสดงผลคุณภาพอากาศได้แบบแม่นยำและเรียลไทม์ สามารถตรวจจับฝุ่นขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนที่ปนเปื้อนในอากาศ และมีแผ่นกรอง HEPA ที่สามารถกรองฝุ่นอนุภาคเล็กขนาด PM10, PM2.5, PM1.0 และ PM0.3 ได้มากถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ เครื่องฟอกอากาศ Cube ยังเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะที่สามารถควบคุมผ่านแอพพลิเคชัน SmartThings บนสมาร์ทโฟน เพื่อเตรียมอากาศสะอาดบริสุทธิ์ไว้รอ แม้ตัวคุณจะยังไม่ถึงบ้าน และยังดูแลรักษาง่าย ด้วยสัญญาณเตือนเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ ที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าเครื่องฟอกอากาศของคุณสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเสมอ พร้อมดีไซน์แบบโมดูล ที่แค่ยกมาวางซ้อนกันก็สามารถเชื่อมต่อการทำงานได้พร้อมกันถึง 2 เครื่อง เพิ่มประสิทธิภาพในการฟอกได้รวดเร็ว และครอบคลุมพื้นที่ที่กว้างขึ้นเป็น 2 เท่า (94 ตร.ม.) ดีไซน์โดดเด่นด้วยตัวเครื่องทรงลูกบาสก์ ทำจากวัสดุโลหะสีเมทัลซิลเวอร์ ช่วยเสริมให้บ้านสวยมีเอกลักษณ์ได้อย่างลงตัว
Samsung Cube AX9500 เครื่องฟอกอากาศที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบงานดีไซน์สวยงามลงตัวไร้ที่ติ ทั้งยังตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ให้สามารถเลือกใช้งานตามขนาดพื้นที่ในบ้านได้อย่างเหมาะสม ให้บ้านของคุณปลอดภัยจากฝุ่นละออง PM2.5 ในวิกฤตมลพิษทางอากาศระลอกใหม่นี้ ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ https://www.samsung.com/th/air-care/air-purifier/air-purifier-cube-ax9500n/
ข่าวเด่น