บริษัทจดทะเบียนไทย ได้รับคะแนนประเมินเฉลี่ยสูงสุดในอาเซียนต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 และได้รับรางวัล ASEAN Asset Class Award มากที่สุด ในการประกาศรางวัล ASEAN CG Scorecard ประจำปี 2562 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ASEAN Capital Markets Forum (ACMF) และธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เพื่อยกย่องและประกาศเกียรติคุณให้แก่บริษัทจดทะเบียนในอาเซียนที่ได้ดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ในการประชุม ACMF ระดับเลขาธิการ ครั้งที่ 33 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ซึ่งมีหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้ประกาศผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการที่ดีของ บริษัทจดทะเบียนในอาเซียน (ASEAN CG Scorecard) สำหรับปี 2562 ซึ่งประเมินโดยใช้ข้อมูลปี 2561 ของบริษัท จดทะเบียน โดยแบ่งรางวัลเป็น 3 ประเภท ได้แก่ (1) รางวัล ASEAN Asset Class PLCs สำหรับบริษัทที่ได้คะแนนตั้งแต่ 97.50 คะแนนขึ้นไป มีบริษัทจดทะเบียนไทยจำนวน 42 บริษัท จากทั้งหมด 135 บริษัท ซึ่งมากที่สุดในอาเซียน (2) รางวัล ASEAN Top 20 PLCs สำหรับบริษัทที่มีคะแนนติดอันดับสูงสุด 20 อันดับแรกของอาเซียน ประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนจากมาเลเซีย 7 บริษัท สิงคโปร์ 5 บริษัท และไทย 4 บริษัท เท่ากับฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการมอบสองรางวัลนี้ และ (3) รางวัล Country Top 3 PLCs ซึ่งมอบให้บริษัทจดทะเบียนที่มีคะแนนสูงสุด 3 อันดับแรกของแต่ละประเทศ สำหรับไทย บริษัทจดทะเบียนที่มีคะแนนสูงสุด 3 ลำดับแรก (เรียงตามตัวอักษรย่อภาษาอังกฤษของชื่อบริษัทจดทะเบียน) ได้แก่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP)
นอกจากนี้ จากผลคะแนนทั้งหมดพบว่า บริษัทจดทะเบียนไทยยังเป็นผู้นำด้วยคะแนนเฉลี่ยสูงสุดที่ 96.60 รองลงมาคือ มาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 94.99 และ 88.27 ตามลำดับ
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า “องค์กรกำกับดูแลตลาดทุนในอาเซียนริเริ่มและสนับสนุนให้มีโครงการ ASEAN CG Scorecard เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนในอาเซียนให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล ที่ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้การยอมรับ ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่มีบริษัทจดทะเบียนไทยได้รับรางวัล ASEAN Asset Class Award มากที่สุดในอาเซียน และยังได้คะแนนเฉลี่ยสูงเป็นอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่มีการประเมินครั้งแรกเมื่อปี 2555 โดยผลการสำรวจล่าสุดในปี 2562 ได้สะท้อนถึงการให้ความสำคัญในเรื่องการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนของหน่วยงานกำกับ
จากข้อมูลผลสำรวจพบว่าบริษัทจดทะเบียนไทยยังสามารถพัฒนายกระดับให้ดียิ่งขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการทำหน้าที่ของคณะกรรมการตามแนวการปฏิบัติที่ดี ซึ่ง ก.ล.ต. จะร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และองค์กรที่เกี่ยวข้องร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินการและสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งรักษาความเป็นผู้นำด้าน CG ในภูมิภาคที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาระดับประเทศและระดับสากล อีกทั้งเป็นการสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนไทยติดอันดับ ASEAN Top 20 PLCs มากขึ้นด้วย ทั้งนี้ จะมีการจัดงานมอบรางวัล ASEAN CG Scorecard อย่างเป็นทางการต่อไปโดยคำนึงถึงสถานการณ์และมีมาตรการในการดูแลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19”
นายกุลเวช เจนวัฒนวิทย์ กรรมการผู้อำนวยการ IOD ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน CG ของโครงการ กล่าวว่า “IOD ขอชื่นชมและร่วมแสดงความยินดีกับบริษัทจดทะเบียนทุกแห่งที่ได้รับรางวัล ซึ่งเห็นได้ว่าบริษัทจดทะเบียนไทยมีพัฒนาการในการปฏิบัติตามหลัก ASEAN CG Scorecard อย่างต่อเนื่อง ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทจดทะเบียนในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการ และการส่งเสริมการกำกับดูแลกิจการที่ดีในองค์กร ในปีที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียนไทยมีพัฒนาการดีขึ้นในทุก ๆ หมวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมวดความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ซึ่งเป็นหมวดที่ ASEAN CG Scorecard ให้น้ำหนักมากที่สุด นอกจากนั้น ผลการสำรวจพบว่าบริษัทจดทะเบียนไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัติตามนโยบายที่วางไว้มากขึ้น โดยมีการทบทวนและติดตามการปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นท้าทายที่ IOD ต้องสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนไทยให้มีการพัฒนาต่อไปทั้งในเรื่องของการมีกระบวนการในการทบทวน ติดตาม และตรวจสอบให้มีการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ ความเป็นอิสระของกรรมการ และการจัดให้มีนโยบายในเรื่องการกำกับดูแลและจัดการความเสี่ยงด้านไอที เป็นต้น เพื่อยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียนไทย ให้มีความโปร่งใส และเป็นที่ยอมรับในมุมมองของนักลงทุนทั้งในประเทศและระดับสากล”
ทั้งนี้ ASEAN CG Scorecard เป็นโครงการที่ริเริ่มโดย ACMF ซึ่งเกิดจากการสนับสนุนของ ก.ล.ต. ในอาเซียน เพื่อทำการประเมินการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียน 6 ประเทศในอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ตั้งแต่ปี 2555 โดยประเมินบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงสุด 100 อันดับแรก ณ วันที่ 31 มีนาคม การประเมินระดับประเทศใช้เกณฑ์ที่พัฒนามาจากหลักเกณฑ์ OECD 5 หมวด โดยประเมินจากข้อมูลที่บริษัทจดหมายเปิดเผยต่อสาธารณะ เป็นข้อมูลที่ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ และมีกระบวนการตรวจสอบคะแนนจากประเทศอื่น (Peer review) เพื่อมั่นใจว่าทุกประเทศมีมาตรฐานการประเมินสอดคล้องกัน โดยการประเมิน ASEAN CG Scorecard ปี 2562 เป็นการประเมินจากการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานของปี 2561 ทั้งนี้สถาบันกรรมการบริษัทไทยได้รับการพิจารณาจาก ก.ล.ต. ไทยให้เป็น CG Expert และองค์กรผู้ทำการประเมินในนามของประเทศไทย
ข่าวเด่น