มองบวกราคาทองระยะสั้นหลังปรับตัวผ่าน 1,850 ดอลล์
2ปัจจัยต่างขั้วส่งผลหุ้นแกว่งตัวผันผวน
สำหรับราคาทองคำนั้น ปรับตัวขึ้น 47 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เข้าสู่ระดับ 1,884 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขานรับความหวังที่ว่า สภาคองเกรสสหรัฐ จะอนุมัติให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครตได้เห็นพ้อง ที่จะแยกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ ออกเป็นร่างกฎหมาย 2 ฉบับ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส
โดยฉบับแรกจะมีวงเงิน 7.48 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาผู้ที่ตกงาน และธุรกิจขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่อีกฉบับหนึ่งจะมีวงเงิน 1.60 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อให้ความช่วยเหลือมลรัฐต่างๆ
นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนของแถลงการณ์ของเฟด ที่ระบุว่า จะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงินรวม 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จนกระทั่งบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานเต็มศักยภาพ เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำเพิ่มเติม
โดยฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ยังมีมุมมองบวกต่อราคาทองคำในระยะสั้นหลังปรับตัวผ่านระดับ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นมาได้ โดยเรามองว่าการรีบาวด์ในรอบนี้ มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 1,900-1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่ 26,840-27,150 บาทต่อบาททองคำ
โดยหากเข้าใกล้แนวต้าน 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ทยอยขายออก เนื่องจากวัคซีนโควิดมีความคืบหน้าต่อเนื่องทำให้ประเทศต่างๆ ต้องสำรองเงินสำหรับวัคซีน
ส่วนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้น เมื่อวันศกร์ที่ผ่านมาดัชนีปิดลบ -1.51 จุด โดยแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ และมีแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่ม Big Cap. ที่ปรับตัวขึ้นแรงก่อนหน้า เช่น BANK และ ETRON ประกอบกับภายในประเทศยังคงมี Sentiment เชิงลบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,482.38 จุด -1.51 จุด -0.10% มูลค่าการซื้อขาย 1.16 แสนล้านบาท โดยทั้งสัปดาห์ดัชนีปรับตัวลดลง -0.29 จุด -0.01%
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กคาด ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway โดยมีแรงหนุนจากความหวังว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังมีแรงกดดันจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่จังหวัดสมุทรสาคร คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,450-1,500 จุด
สำหรับหุ้น 2 หลักทรัพย์ที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ได้แก่ หุ้น TQM โดยราคาปิดอยู่ที่ 129.00 บาท หุ้นดีดตัวกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทุกระดับ พร้อมปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นชัดเจน และ MACD เพิ่งส่งสัญญาณ Bullish คาดราคามีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 129.00-140.00 บาท มีแนวรับที่ 124 บาท และมีจุด cut loss ที่ 123 บาท
ส่วนอีกหลักทรัพย์ที่น่าสนใจคือ หุ้น TIPCO ซึ่งมีราคาปิดที่ 7.45 บาท ซึ่งดีดตัวทำแท่งเทียนเขียวยาว โดยมี Volume เริ่มกระตุก และ Slow Sto. ส่งสัญญาณซื้อ หากผ่านต้านแรกที่ 7.80 บาทได้ จะมีต้านถัดไปที่ 8.20 บาท และมีจุด cut loss ที่ 7.20 บาท
.jpg)
ข่าวเด่น