กลยุทธ์การลงทุน:
SET ยังได้รับปัจจัยกดดันจากการแพร่ระบาด อย่างไรก็ตาม มองว่า การระบาดรอบนี้ ผลกระทบต่อ SET จะไม่รุนแรงเท่าครั้งแรก โดยเรามองแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1400 1350 และ 1300 จุด ตามลำดับ ส่วนแนวโน้มวันนี้ คาดว่ามีโอกาสเกิดการรีบาวด์จากแนวรับบริเวณ 1380-1390 จุด แต่กรอบบนยังถูกจำกัดที่ 1420-1430 และ 1440-1450 จุด ตามลำดับ กลยุทธ์ แนะนำบริเวณ 1350-1380 จุด เป็นจุดเข้าซื้อสำคัญ ส่วนการเก็งกำไรใช้ Selective Buy และมีจุด cut เพื่อจำกัดความเสี่ยง
ล็อคเป้าลงทุน:
# ประเมินการระบาด COVID-19 รอบนี้กระทบ sentiment การลงทุน แต่ยังไม่กระทบกับผลประกอบการ บจ. จึงมองว่าการปรับลงของดัชนีในรอบนี้ไม่น่าจะรุนแรงเท่าการระบาดรอบที่ผ่านมา ประเมิน SET ที่ 1,350-1,380 จุด เป็นจุดเข้าซื้อสำคัญ
# กลยุทธ์ระยะสั้น แนะนำกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจำกัด คือ กลุ่มพลังงาน บรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ เครื่องดื่ม โดยแนะนำ STGT ที่ราคาหุ้นพักตัวจน valuation น่าสนใจ ขณะที่อุปสงค์ถุงมือยางยังมีต่อเนื่องไปถึงปีหน้า โดยคาดว่าผลกระกอบการ 4Q63 จะโตโดดเด่นทั้ง YoY และ QoQ
# ส่วนกลุ่มที่คาดได้รับผลกระทบในรอบนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเดินทาง (รถไฟฟ้า สายการบิน) และกิจกรรมนอกบ้าน (โรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ค้าปลีก โรงพยาบาล) อาจทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัว จากประโยชน์ของวัคซีนในอนาคต
ประเด็นสำคัญ
# ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน ยุโรป-ราคาน้ำมันปรับลดลง
DJIA พลิกกลับมาปิดบวก หนุนจากความคาดหวังที่คองเกรสเตรียมลงมติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการปรับขึ้นของหุ้นสถาบันการเงิน ช่วยลดแรงกดดันจากการแพร่ระบาดโดยเฉพาะใน UK ที่มีการกลายพันธุ์ ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับลงหนัก รวมทั้งราคาน้ำมันปรับลงแรงจากความกังวลอุปสงค์ชะลอตัว
# นายกฯ ประเมินสถานการณ์ 7 วันก่อนพิจารณา lockdown
เรามองว่าการแพร่ระบาดครั้งนี้จะไม่รุนแรงเท่ารอบแรก เนื่องจากภาครัฐมีมาตรการรองรับ ภาคธุรกิจเตรียมพร้อม และปชช.ให้ความร่วมมือ จึงเชื่อว่าไม่น่าจะ lockdown เป็นวงกว้างเช่นครั้งที่ผ่านมา
# บอร์ด BOI เห็นชอบมาตรการส่งเสริมลงทุนปี 64 กระตุ้น ศก.
เน้นโครงการขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ให้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 50% เป็นเวลา 5 ปี เพิ่มจากเกณฑ์ปกติ สำหรับโครงการที่มีการลงทุนจริง 1 พันลบ.ขึ้นไปภายใน 1 เดือน เรามองเป็น sentiment บวกต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม
Wealth Strategy
แนะนำกองทุนลดหย่อนภาษี PRINCIPAL GOPP-SSF โดยกองทุนหลักมุ่งเน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีคุณภาพ เติบโตสูง และได้เปรียบในการแข่งขัน ภายใต้การเป็น Disruptor หรือ Survivor โดยกองทุนมี Active share สูงถึง 89%
บทวิเคราะห์วันนี้
พาณิชย์ – คาด SSS อ่อนแอใน 4Q63; ฟื้นตัวในปี 2564
PTT – แผนลงทุน 5 ปีเน้นธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน
ข่าวเด่น