หุ้นทอง
กลยุทธ์การลงทุนหุ้น : ลงทุนเงินก้อนครั้งเดียวแบบ Market Timing VS DCA เลือกแบบไหนดี


ลงทุนเงินก้อนครั้งเดียวแบบ Market Timing VS DCA เลือกแบบไหนดี

การลงทุนในหุ้น สิ่งสำคัญที่สุด ที่ มิสเตอร์ตลาดหลักทรัพย์ฯให้ความสำคัญก็คือ ก็คือ การมีแผนการลงทุนที่ดี โดยเฉพาะการเลือกกลยุทธ์ หรือวิธีการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง เพราะแม้คุณจะวางแผนมาดีขนาดไหน แต่หากเลือกวิธีการลงทุนที่ไม่เหมาะกับสไตล์การลงทุนของตัวคุณเอง คุณก็อาจไม่ได้รับผลตอบแทนอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งวิธีการลงทุนในหุ้นมีหลายรูปแบบ  ดังนั้น ถ้าคุณเน้นการจับจังหวะการลงทุน หรือเล่นหุ้นเป็นรอบ อาจใช้เทคนิคการจับทิศทางตลาด หรือ Market Timing  ซื้อขายหุ้นเป็นรอบตามกราฟเทคนิค หรือถ้าคุณเน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี เติบโตสม่ำเสมอ ลงทุนระยะยาวแบบสะสมไปเรื่อยๆ และเพิ่มเงินลงทุนใหม่เข้าไปทุกเดือน โดยไม่สนใจว่าหุ้นจะราคาเท่าไหร่ ก็อาจใช้กลยุทธ์แบบ DCA (Dollar-cost Averaging) 

แล้วลงทุนด้วยเงินก้อนครั้งเดียวแบบ Market Timing VS ลงทุนสม่ำเสมอแบบ DCA คุณควรจะเลือกแบบไหนดีนะ
ดังนั้น คุณ ลองมาทำความเข้าใจลักษณะสำคัญของการลงทุนแบบ Market Timing และ DCA กันดีกว่า เผื่อจะช่วยให้ คุณ ตัดสินใจลงทุนได้เหมาะกับไลฟ์สไตล์มากขึ้น


เป็นการลงทุนโดยเน้นจับจังหวะตลาด ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์เศรษฐกิจมาประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยต้องการจะซื้อหุ้นให้ได้ในราคาที่ถูกที่สุด และขายในราคาที่แพงที่สุด

Market Timing เหมาะกับนักลงทุนที่
 
• วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและภาวะเศรษฐกิจได้ดี• มีความรู้เรื่องการวิเคราะห์ทางเทคนิค• มีเงินก้อนและรอคอยเวลาที่เหมาะสมในการลงทุนได้


ส่วน การลงทุนสม่ำเสมอแบบ DCA (Dollar Cost Average) เป็นการ “ซื้อหุ้นด้วยจำนวนเงินที่เท่าๆ กันทุกเดือน โดยไม่สนใจว่าหุ้นราคาเท่าไหร่” ซึ่งจะทำให้ได้ราคาต้นทุนแบบถัวเฉลี่ย จึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว แม้ว่าจะไม่ได้กำไรสูงสุด แต่ก็ไม่มีทางขาดทุนแบบกู่ไม่กลับ

DCA เหมาะกับนักลงทุนที่
 
• มีวินัยในการลงทุน
• มีเงินเริ่มต้นลงทุนไม่มาก
• ไม่มีเวลาในการติดตามข่าวสารการลงทุน
 

เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว คุณก็ลองไปชั่งใจ และเลือกดูว่าการลงทุนแบบ Market Timing หรือ DCA ที่เหมาะกับคุณมากกว่ากัน โดยการลงทุนแบบ Market Timing มีโอกาส “สร้างผลตอบแทนได้มากกว่า” การลงทุนแบบ DCA แต่ผู้ลงทุนต้องสามารถจับจังหวะลงทุนได้เบื้องต้น

ส่วนการลงทุนแบบ DCA แม้จะ “ได้ผลตอบแทนน้อยกว่า” แต่ก็แลกกับการถัวเฉลี่ยความเสี่ยงในการจับจังหวะลงทุนผิดได้ หากพิจารณาแล้วว่าการลงทุนแบบไหนเหมาะสมกับตนเอง แล้วคุณก็อย่าลืม หาความรู้เติมความมั่นใจก่อนการลงทุนด้วย


นอกเหนือจากเลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะกับตัวคุณเองแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่นักลงทุนไม่ควรละเลย เมื่อเลือกหุ้นผิดตัว หุ้นไปผิดทาง หรือเริ่มที่จะขาดทุนหนักมากขึ้น คือ คุณต้องทบทวนปัจจัยพื้นฐานของหุ้น และอาจเลือกใช้วิธีการ Stop Loss ก็เพื่อป้องกันความเสียหาย โดยคุณต้องกำหนดเงื่อนไขในการหยุดขาดทุน เช่น หากราคาหุ้นลดลงมา 10% หรือ 15% จากราคาที่คุณซื้อ หรือหากหลุดสัญญาณเทคนิคที่คุณเฝ้าสังเกตการณ์ ก็ให้คุณขายหุ้นออกทันที

เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถลงทุนเพื่อเป้าหมายในระยะยาวได้อย่างมีความสุขแล้วอบเงินบาทระหว่างวันที่? 30.12-30.32 บาทต่อดอลลาร์

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 ม.ค. 2564 เวลา : 09:29:47
30-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 30, 2024, 11:33 am