ระวังแรงขายทองหากไม่ผ่านแนวต้าน 1,875-1,890 ดอลล์
ทิศทางหุ้นไทยมีโอกาสพักตัวต่อ
ราคาทองคำปรับตัวลงต้นสัปดาห์กว่า 78 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 1% ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้น นักลงทุนจึงทยอยขายสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อเตรียมชำระคืนเงินกู้
แต่ราคาทองคำ ก็กลับรีบาวด์ขึ้นมาราว 25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชื่อว่า "American Rescue Plan" โดยมาตรการดังกล่าวมีวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจให้สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 232 ต่อ 197 ถอดถอน ทรัมป์ ด้วยความผิดในข้อหายุยงปลุกปั่นให้กลุ่มผู้สนับสนุนของเขาบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
โดยหลังจากนี้สภาผู้แทนฯจะส่งญัตติการถอดถอน ทรัมป์ ให้กับวุฒิสภาสหรัฐเพื่อพิจารณาเป็นลำดับต่อไปว่า จะลงมติถอดถอนหรือคัดค้านการถอดถอน ทรัมป์ เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก มีความเห็น และคาดว่า ราคาทองคำมีโอกาสรีบาวด์ได้ แต่หากไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,875-1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้ระวังแรงขาย เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ยังทรงตัวใกล้ระดับ 1% เป็นปัจจัยกดดัน
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื่อ COVID ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเฟดยังคงเดินหน้าเพิ่มขนาดงบดุล ยังเป็นปัจจัยช่วยพยุงราคาทองคำ ทั้งนี้เราประเมินแนวรับที่ 1,820-1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ม.ค.) ดัชนีหุ้นปรับตัวลงกว่า 16.85 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้น DELTA และกลุ่มโรงไฟฟ้าที่เผชิญแรงขายทำกำไร หลังจากปรับขึ้นมาแรงก่อนหน้านี้
ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกสลับลบ เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่เข้าหนุน โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,519.13 จุด -16.85 จุด -1.10% มูลค่าการซื้อขาย 99,902 ล้านบาท
โดย ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสพักตัวต่อ โดยโดยมีแรงหนุนจากนายไบเดนได้ประกาศ American Rescue Plan วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ประกอบกับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เราคาดว่าอาจมีแรงขายจากสถาบันในประเทศ เพื่อนำเงินบางส่วนไปจองซื้อหุ้น OR ในช่วงปลายเดือนม.ค. คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,500-1,550 จุด
ขณะที่สัปดาห์นี้ 2 หลักทรัพย์น่าจับตามอง ได้แก่ หุ้น UTP ซึ่งราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 14.90 บาท โดยกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทุกระดับ โดยมี Volume เริ่มกระตุก และ MACD ส่งสัญญาณ Bullish ต่อเนื่อง หาก Break Out จุด High เดิมที่ 15.80 บาท จะมีต้านถัดไปที่ 16.50 บาท มีแนวรับที่ 14.50 บาท และจุด cut loss ที่ 14.30 บาท
ส่วน INSET มีราคาปิดที่ 3.54 บาท ทำแท่งเทียนเขียวยาว โดยมี Volume สะสมต่อเนื่อง และค่าสัญญาณบวกจาก Slow Sto. หนุน คาดราคามี Momentum ขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านที่ 3.64-3.78 บาท มีแนวรับที่ 3.48 บาท และจุด cut loss ที่ 3.42 บาท
ข่าวเด่น