ราคาทองไม่ผ่านแนวต้านให้ระวังแรงขาย แนวโน้ม Sideway Down เหตุ Fund flow ไหลออก
ราคาทองคำปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน 9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ปรับตัวขึ้นสู่ 1.07% จากต้นปีที่ระดับ 0.93% บ่งชี้ถึงต้นทุนการกู้ยืมเงินที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลก
นอกจากนี้ ผลการประชุมเฟดมีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมประกาศว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงินรวม 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยยังไม่มีการประกาศมาตรการใหม่ ส่งผลทำให้นักลงทุนผิดหวังและทยอยขายทองคำ
สำหรับความเห็น ของ บล.โกลเบล็ก คาดว่า ราคาทองคำมีโอกาสรีบาวด์ได้แต่หากไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,860-1,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ระวังแรงขาย เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ยังทรงตัวใกล้ระดับ 1.07% เป็นปัจจัยกดดัน
สำหรับ จำนวนผู้ติดเชื่อ COVID ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเฟดยังคงเดินหน้าเพิ่มขนาดงบดุล ยังเป็นปัจจัยช่วยพยุงราคาทองคำ ทั้งนี้เราประเมินแนวรับที่ 1,800-1,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ม.ค.) ดัชนีหุ้นปิดปรับตัวลงเล็กน้อย 1.53 จุด จากระหว่างวันที่ลบลงไปกว่า 10 จุด แข็งกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดโซนยุโรป ที่ยังอยู่ในแดนลบกว่า 1% คาดดัชนีได้แรงหนุนจากการรีบาวด์ในหุ้นกลุ่ม Big Cap. ที่ร่วงลงแรงต่อเนื่องก่อนหน้านี้
ประกอบกับเริ่มเห็นการคลายล็อกมาตรการคุมโควิด-19 ภายในประเทศ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,466.98 จุด -1.53 จุด -0.10% มูลค่าการซื้อขาย 95,328 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีหุ้นในสัปดาห์นี้ยังคงแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway Down โดยดัชนีได้ปรับตัวหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,500 จุด พร้อมกับ Fund flow ไหลออก ประกอบกับยังขาดปัจจัยต่างประเทศใหม่ๆ เข้าหนุนตลาด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,430-1,500 จุด
ส่วน 2 หลักทรัพย์ที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ THCOM ราคาปิดอยู่ที่ 9.60 บาท ซึ่งกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น โดยมีปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และ Slow Sto. ส่งสัญญาณบวกหนุน หากผ่านต้านแรกที่ 9.85 บาท ลุ้นทดสอบ High เดิมที่ 10.60 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 9.20 บาท และมีจุด cut loss ที่ 9.15 บาท
และหุ้น GUNKUL ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 2.58 บาท Rebound กลับขึ้นมายืนเหนือเส้น EMA ระยะสั้น พร้อม Volume กระตุก และค่าสัญญาณซื้อจาก Slow Sto. หนุน คาดราคามีโอกาสขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านที่ 2.62-2.74 บาท มีแนวรับที่ 2.50 บาท และจุด cut loss ที่ 2.48 บาท
ข่าวเด่น