"เอแอลที เทเลคอม" ลั่นปี 2564 กำไรจากการดำเนินงานโตต่อเนื่อง เหตุไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือน
ไตรมาส 4/63 เตรียมงบลงทุน 250 ล้าน เพิ่มขีดความสามารถสร้างรายได้ระยะยาว ขณะที่ธุรกิจใหม่หนุนลูกแกร่ง backlog 1,184 ลบ. เผยรอเวลาเก็บเกี่ยวเงินลงทุนโครงการ Smart Grid-Smart City โอเปอเรเตอร์มือถือเช่าโครงข่ายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นาง ปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อธุรกิจดิจิทัลและพลังงานทดแทน เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปี 2563 ที่มีกำไรก่อนภาษีจำนวน 363 ล้านบาท โตก้าวกระโดด 390% พลิกจากปี 2562 ที่มีขาดทุน 125 ล้านบาท โดยบริษัทวางแผนการใช้เงินลงทุนประมาณ 250 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรในระยะยาว
นางปรีญาภรณ์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้บริษัทประมาณการว่าโครงการการพัฒนาเทคโนโลยี Smart Grid จะมีกำไรที่ดี และคาดว่าจะส่งมอบให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ได้ในเดือนมีนาคม 2564 ที่จะถึงนี้ เพื่อนำไปสู่การบูรณาการในระบบส่งไฟฟ้า ขยายไปในหัวเมืองต่างๆ สร้างโอกาสเติบโตให้บริษัทในระยะยาว โดยบริษัทได้เตรียมความพร้อมรองรับโครงการ Smart Grid ที่จะเติบโต โดยเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เอ็นเนอร์จี แม็คซ์ ( EMAX) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายมิเตอร์ไฟฟ้าระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Smart Meter) ในช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นโครงการ Smart City ในเมืองต่างๆ ลงทุนต่อจิ๊กซอร์เป็นรูปเป็นร่างเห็นภาพชัดเจนขึ้น เช่น มีเสาสื่อสาร โครงข่ายไฟเบอร์ software License เพื่ออ่านป้ายทะเบียน กล้อง CCTV- AI และการวิเคราะห์ข้อมูล
ขณะเดียวกันธุรกิจของ ALT ยังมีโอกาสเติบโต ไปพร้อมๆกับนโยบายของรัฐบาลสู่การเป็นASEAN Digital Hub อาทิ
ขยายโครงข่ายไฟเบอร์ เช่นเดียวกับนโยบายเร่งการจัดระเบียบสายและนำสายลงใต้ดิน ทำให้โอเปอเรเตอร์มีการเช่าโครงข่ายของ ALT เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี แทนการลงทุนสร้างเครือข่ายใหม่เอง
สำหรับผลงานในปี 2563 นางปรีญาภรณ์กล่าวต่อว่า บริษัทมีความแข็งแกร่งขึ้นมาก มีกำไรสุทธิ 269.69 ล้านบาท พุ่งขึ้นถึง 315.2% พลิกจากที่ขาดทุนสุทธิ 125.30 ล้านบาทในปี 2562 มาจากรายได้รวม1,557.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 556.36 ล้านบาท เติบโตประมาณ 55.6%เทียบกับปี 2562 ที่ทำได้จำนวน 1,001.18 ล้านบาท เพราะรายได้จากการให้บริการกระโดดขึ้น 134.1% เป็น 1,151 ล้านบาท และรายได้จากการให้บริการโครงข่าย เติบโต 51.5% มาอยู่ที่ 234.42 ล้านบาท มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเข้าใกล้จุดคุมทุนแล้ว แม้ว่ารายได้จากการขายจะลดลง 51.6% เหลือจำนวน 171.87 ล้านบาทก็ตาม
ขณะเดียวกันบริษัทลูก และกิจการร่วมค้า แข็งแรงขึ้น สามารถพลิกมีกำไร 13.97 ล้านบาทในปี 2563 จากปี 2562 ติดลบ 6.47 ล้านบาท พร้อมต้นทุนทางการเงินลดลงตามการชำระภาระหนี้เงินกู้ ทำให้มีกำไรขั้นต้นดีขึ้น 5.8% เป็น 98.27 ล้านบาท เทียบกับ 92.86 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มี Backlog งานในมือรอรับรู้รายได้จำนวน 1,184 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้จนถึงปี 2565
"ในปี2563 เป็นปีที่ ALT มีรายได้พิเศษ 535.41 ล้านบาท เช่น การชนะคดีกรณีพิพาททางกฎหมายจำนวน 412.53 ล้านบาท และกำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สิน 89.28 ล้านบาท พร้อมสร้างความแข็งแกร่งผ่านการปรับโครงสร้างองค์กร โดยมีบริษัท ราช กรุ๊ป (RATCH) เข้ามาร่วมลงทุนสัดส่วน 51% ในบริษัทสมาร์ท อินฟราเนท (SIC) เพื่อนำโครงข่ายโทรคมนาคมและพื้นที่ในการติดตั้งอุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคมของกฟผ.มาต่อยอดให้บริการแก่กลุ่มผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้ใหม่จากกลุ่มโอเปอเรเตอร์ ต่างๆ ที่เช่าโครงข่ายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ" นางปรีญาภรณ์กล่าว
สำหรับผลงานในไตรมาส 4/2563 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนภาษีเงินได้จำนวน 40.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.62 ล้านบาทหรือเติบโต 296.2% เทียบกับไตรมาส 4/2562 ที่มีกำไรสุทธิ 10.34 ล้านบาท แต่เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากภาษี 69 ล้านบาท รวมทั้งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ให้ผลตอบแทนกับพนักงาน จึงมีมติจ่ายโบนัส 18 ล้านบาท เพื่อตอบแทนในความทุ่มเทและทำงานหนักแก่พนักงาน จากเหตุดังกล่าวจึงขอเป็นแสดงผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส4/2563? มูลค่า?28.6 ล้านบาท
ข่าวเด่น