· เดลล์ เทคโนโลยีส์ ผนึกกำลังในการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการระบบคลาวด์ (Cloud Service Providers หรือ CSPs) ชั้นนำ 6 รายในประเทศไทย เพื่อส่งมอบทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบด้วยโซลูชันทั้งในแบบที่ขึ้นกับปริมาณการใช้งาน (consumption-based) และในรูปแบบ as-a-service สำหรับเศรษฐกิจแบบ on-demand และสภาพแวดล้อมการทำงานจากระยะไกล (remote work)
· การให้บริการในแบบ as-a-service บน Dell Technologies Cloud Platform ทำให้เกิดรูปแบบการดำเนินงานที่สอดคล้องกันและทำให้การจัดการข้ามผ่านพับบลิคและไพรเวทคลาวด์ ตลอดจนการทำงานที่พื้นที่ปลายทาง (edge locations) ทำได้ง่ายขึ้น ทั้งช่วยขจัดปัญหาด้านไซโลและความซับซ้อนผ่านศูนย์กลางการปฏิบัติงานเพียงหนึ่งเดียว
· ลูกค้าสามารถย้ายเวิร์กโหลดข้ามผ่านทั้งไพรเวทและพับบลิคคลาวด์ ด้วยความยืดหยุ่นที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลพร้อมทั้งสามารถนำรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดคลาวด์ ที่เหมาะสมและเข้ากันกับความต้องการของลูกค้าอย่างที่สุดในขณะที่สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายลง
เดลล์ เทคโนโลยีส์ เสริมความแกร่งกลยุทธ์ทางด้านคลาวด์ ผนึกกำลังเครือข่ายผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud Service Provider หรือ CSPs) ที่ครอบคลุม เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับใช้ไฮบริดคลาวด์ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากโครงสร้างการใช้งานแบบ pay-per-use บน Dell Technologies Cloud Platform โครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนในการปรับใช้และการดำเนินงานภายในสภาพแวดล้อมของไฮบริดคลาวด์
ทั้งนี้ เดลล์ เทคโนโลยีส์ได้มีการลงนามข้อตกลงกับ เอไอเอส คลาวด์ เอชเอ็ม เอ็นทีที โปรเอ็น คอร์ป เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น และแทนเจอรีน ในการทำงานร่วมกัน ความร่วมมือนี้ช่วยเสริมความแกร่งให้กับสายผลิตภัณฑ์โซลูชันที่สมบูรณ์เป็นรูปแบบ as-a-service ที่คิดการบริการตามการใช้งาน (consumption-based) ที่มาพร้อมความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม ตลอดจนองค์กรธุรกิจในทุกขนาด
“กลยุทธ์ของเราเรียบง่าย นั่นคือการนำสิ่งที่ดีที่สุดของพับบลิคคลาวด์เข้าสู่ดาต้าเซ็นเตอร์ และนำสิ่งที่ดีที่สุดของดาต้าเซ็นเตอร์มาสู่พับบลิคคลาวด์” นายนพดล ปัญญาธิปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าว
“กลยุทธ์ด้านไอทีแบบมัลติคลาวด์ที่ได้รับการสนับสนุนด้วยสถาปัตยกรรมแบบไฮบริดคลาวด์ จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับองค์กรธุรกิจในการที่จะมีรูปแบบการจัดการข้อมูลและการมองเห็นระบบ (visibilities) ข้ามผ่านทุกสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่ดียิ่งขึ้นในขณะที่สร้างความมั่นใจให้กับองค์กรว่าข้อมูลจะยังคงสามารถเข้าถึงได้และปลอดภัย
ทั้งนี้ ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจทางด้านไอทีต่างรับแนวการทำงานแบบไฮบริดคลาวด์เข้ามาใช้ เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดของทั้งไพรเวทคลาวด์ และพับบลิคคลาวด์ภายในรูปแบบทางไอทีที่มีการผสมผสานกันแบบถาวร และจากการที่องค์กรธุรกิจเข้ามาประเมินลำดับความสำคัญทางดิจิทัล รูปแบบการทำงานเช่นนี้จะช่วยสร้างให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานด้านไอทีทั่วกันทั้งหมดเพื่อช่วยสร้างความสำเร็จในยุคเศรษฐกิจหลังการเกิดการแพร่ระบาด
ช่วงปลายปีที่ผ่านมา องค์กรธุรกิจต่างจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างรวดเร็ว ประการแรก เกิดรูปแบบการทำงานและการเรียนจากที่บ้าน และในขณะนี้ ธุรกิจต่างๆ กำลังใช้โอกาสนี้ในการสร้างโมเดลใหม่สำหรับอนาคตที่ผสานการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันมากขึ้น บนระบบดิจิทัลแบบอัตโนมัติ ด้วยการใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาลในแบบกระจายศูนย์เพิ่มมากขึ้น จากข้อมูลของ PwC Thailand การเกิดขึ้นของการแพร่ระบาดกระตุ้นให้บริษัทของไทยกว่า 50% หันมาใช้บริการบนคลาวด์กันในวงกว้าง โดยเฉพาะอยางยิ่งการใช้งานไฮบริดคลาวด์ที่สามารถเข้ามารองรับสภาพแวดล้อมของการทำงานจากระยะไกล (remote work) ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ PwC คาดว่าแนวโน้มนี้จะยังคงดำเนินต่อไปเนื่องจากบริการคลาวด์มอบทั้งความปลอดภัยและความคล่องตัวที่ธุรกิจต้องการในการรับมือกับวิกฤต
เดลล์ เทคโนโลยีส์ นำเสนอแพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์ที่มีเอกลักษณ์และสอดคล้องกัน
Dell Technologies Cloud เสนอประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์มคลาวด์ที่สอดคล้องกันในสภาพแวดล้อมระบบคลาวด์ทุกรูปแบบ ครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานแบบไพรเวท คลาวด์ พับบลิค คลาวด์ ไปจนถึงการใช้งานที่พื้นที่ที่เป็นปลายทาง (Edge locations) เพื่อขจัดไซโล (silos) และความซับซ้อนของคลาวด์จำนวนมากผ่านศูนย์กลาง (hub) การปฏิบัติงานเพียงหนึ่งเดียว
จากการดำเนินงานด้วยรูปแบบของไฮบริดคลาวด์ที่สอดคล้องกัน องค์กรธุรกิจต่าง ๆ สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วต่อสภาพแวดล้อมทางด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งยังสามารถปกป้องการลงทุนด้วยโซลูชันที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสม
จากข้อมูลของ Forrester ลูกค้าที่ใช้ Dell Technologies Cloud ในระยะเวลาสามปีขึ้นไปสามารถเห็นผลตอบแทนจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 170% และเรียกคืนค่าใช้จ่ายได้ภายในระยะเวลาไม่ถึงหกเดือน
ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ช่วยเติมเต็มระบบนิเวศแบบ as-a-service
เมื่อการร่วมมือกับผู้ให้บริการคลาวด์ ผนึกรวมเข้าเป็นหนึ่งกับกลยุทธ์ทางด้านคลาวด์ของเดลล์ เทคโนโลยีส์ ในการมอบความสอดคล้องในการทำงานของคลาวด์ พร้อมด้วยรูปแบบการคิดค่าบริการตามการใช้งาน (consumption-based) ให้แก่องค์กรธุรกิจในทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจขนาดกลาง-ขนาดเล็ก (SMBs) ไปจนถึงระดับเอนเทอร์ไพรซ์ในทุกอุตสาหกรรม ตลอดจนถึงภาครัฐและเอกชน ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากความสามารถในองค์รวมของการทำพันธมิตรทางธุรกิจที่จะรองรับกลยุทธ์ด้านมัลติ-คลาวด์ และปริมาณเวิร์กโหลดที่มีเป็นจำนวนมากทั้งจากแอปพลิเคชันแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ในทุกสภาพแวดล้อมคลาวด์
Dell Technologies Cloud ซึ่งเป็นโซลูชันพร้อมใช้งานที่ผ่านการตรวจสอบล่วงหน้า (pre-validated) และได้รับการรับรอง (certified) ช่วยให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ให้สามารถสร้างและปรับขยายสภาพแวดล้อมของคลาวด์ที่โฮสต์อยู่ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงปรับใช้งานระบบคลาวด์ที่ลูกค้าเลือกด้วยเวลาที่รวดเร็ว คุ้มค่าและยืดหยุ่นได้ ซึ่งส่วนนี้นำไปสู่การประหยัดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญทั้งจากระยะเวลาที่ใช้สั้นลงในการจัดเตรียมและจัดการสภาพแวดล้อมระบบคลาวด์แบบ multi-tenant ทั้งการสร้างเวอร์ชวลดาต้าเซ็นเตอร์ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีและสามารถใช้งานได้ทุกที่ภายในไม่กี่วินาที
คำกล่าวของพันธมิตร
กฤษกร ชัยเจริญ หัวหน้าส่วนงานธุรกิจคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (เอไอเอส)
“วิสัยทัศน์ของ AIS คือการให้บริการ "Digital Life" และเป็น digital enabler ที่ช่วยให้การใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลของลูกค้าในระดับเอนเทอร์ไพรซ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ คลาวด์คือสิ่งที่เข้ามาช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับทั้งธุรกิจและองค์กรในการจัดการทั้งในด้านทรัพยากรและการใช้จ่าย ด้วย Dell Technologies Cloud พร้อมด้วยการสนับสนุนของซอฟต์แวร์จาก Pivotal และVMware ภาคธุรกิจสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่างๆ อาทิ คอนเทนเนอร์ และ DevOps เพื่อการจัดการและการเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาให้เร็วมากยิ่งขึ้นเพื่อลดระยะเวลาในการเข้าสู่ตลาด (time-to-market) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ณพัชร อัมพุช กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์ เอชเอ็ม จำกัด
“เราเชื่อว่าตลาดคลาวด์ในประเทศไทยยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโตและเราคาดหวังว่าตลาดคลาวด์จะยิ่งเติบโตมากยิ่งขึ้นในระยะยาว ด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ในระดับโลกที่สมบูรณ์พร้อมของเดลล์ เทคโนโลยีส์ คลาวด์ เอชเอ็มสามารถให้บริการลูกค้าในแบบ always-on ที่สร้างขึ้นบนระบบที่มั่นคงพร้อมประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง การให้บริการ Infrastructure-as-a-Service ของเราสามารถตอบโจทย์และรองรับความต้องการขององค์กรธุรกิจในทุกขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และเอนเทอร์ไพรซ์ขนาดใหญ่”
นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมา และลาว บริษัท เอ็นทีที จำกัด
“เรามองเห็นถึงความต้องการในด้านบริการคลาวด์ที่สูงเป็นอย่างมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา คลาวด์พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงของการแพร่ระบาดที่ทำให้องค์กรธุรกิจต้องปรับและเพิ่มความคล่องตัวด้วยการตอบรับการใช้กลยุทธ์ cloud-first เอ็นทีทีให้บริการไพรเวท คลาวด์ ไฮบริด คลาวด์ และมัลติ-คลาวด์ ทั้งให้การดูแลลูกค้าในส่วนนี้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว การเป็นพันธมิตรร่วมกับเดลล์ เทคโนโลยีส์ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้การให้บริการคลาวด์ให้กับลูกค้าในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น”
นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน)
“คลาวด์คือบริการ S-curve ใหม่ของเรา เราขยับจากการเป็นผู้ให้บริการ Infrastructure-as-a-Service มาสู่การเป็นผู้ให้บริการ Platform-as-a-Service บน Dell Technologies Cloud รายแรกของประเทศ เราทำงานร่วมกับเดลล์ เทคโนโลยีส์มากกว่า 10 ปี และเรามีความมั่นใจในสายผลิตภัณฑ์ที่ของโซลูชันที่สามารถรองรับความต้องการในอนาคต (future-proof solutions) ที่จะช่วยให้โปรเอ็นให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ อีกทั้งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
“เอสไอเอสยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับเดลล์ เทคโนโลยีส์ และVMware ในการทำงานร่วมกัน เรามุ่งมั่นที่จะนำความแข็งแกร่งที่เรามีมาช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้กับองค์กรขนาดใหญ่และทำให้โซลูชันของเราที่สร้างบน Dell Technologies Cloud Platform เป็นทางเลือกของลูกค้าในประเทศไทย”
นิรุตติ เลิศสมบุญ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แทนเจอรีน จำกัด
“เพื่อตอบโจทย์การปฏิรูป หรือทรานส์ฟอร์มการทำงาน ภาคองค์กรและธุรกิจต่างๆ เริ่มที่จะมองหาการให้บริการในรูปแบบ on-demand เพิ่มมากขึ้น การทำงานร่วมกับเดลล์ เทคโนโลยีส์ เรามุ่งเน้นไปที่การส่งมอบบริการและโซลูชั่นตามความต้องการ หรือ on-demand ให้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมการเงิน ซึ่งเราหวังว่าด้วยความร่วมมือของแทนเจอรีนและเดลล์ เทคโนโลยีส์นี้เราจะขยายต่อยอดการบริการไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ในอนาคต”
ข่าวเด่น