ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ มุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณค่าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับผู้ใช้ในทุกวัน ซึ่งหนึ่งในหัวใจสำคัญของความตั้งใจดังกล่าว คือการแสวงหาและคิดค้นนวัตกรรมเพื่อรักษาโลกใบนี้ พร้อมคงไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่าให้อยู่กับเราไปนานที่สุด
ด้วยเหตุนี้ ซัมซุงจึงได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ยึดตามหลักการ 3 ประการ ได้แก่ การลด (reduce) การเปลี่ยน (replace) และการรีไซเคิล (recycle) ซึ่งเป็นแนวทางในการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy S ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยซัมซุงได้ดำเนินการตามแนวทางอันยั่งยืน ทั้งในส่วนของปริมาณบรรจุภัณฑ์ที่ผลิต ไปจนถึงชนิดของวัสดุที่ใช้[1]
Galaxy S7 ถึง Galaxy S21: เส้นทางสู่บรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของซัมซุง
นับตั้งแต่เปิดตัว Galaxy S7 ในปี 2559 ซัมซุงได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้นสำหรับ Galaxy S Series ในรุ่นต่อมา โดยซัมซุงได้ทุ่มเทความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อลดจำนวนส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคไม่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อภายหลังได้
ซึ่งสำหรับบรรจุภัณฑ์ของ Galaxy S21 Series 5G นั้น มีส่วนประกอบของพลาสติกอยู่เพียง 4%[2] เมื่อเทียบกับปริมาณพลาสติกที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์ของ Galaxy S7 ซึ่งช่วยลดการเกิดขยะต่อหนึ่งหน่วยบรรจุภัณฑ์ได้ถึง 49% นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ของ Galaxy S21 Series 5G ยังใช้กระดาษเพียง 58% เมื่อเปรียบเทียบกับ Galaxy S7 ส่งผลให้ปริมาณการตัดต้นไม้ลดลงถึง 44,802 ต้นต่อปี[3] จากความพยายามดังกล่าว ทำให้ซัมซุงสามารถลดปริมาณคาร์บอนที่เกิดจากขั้นตอนการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ Galaxy S21 Series 5G ได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับ Galaxy S7 ด้วยเช่นกัน[4]
นอกจากนี้ ผลจากการคิดค้นวิจัยด้านวัสดุเพื่อสิ่งแวดล้อม ทำให้บรรจุภัณฑ์ของ Galaxy S8 ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นหลายประการเมื่อเทียบกับ Galaxy S รุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็น การนำแม่เหล็กออกจากด้านในบรรจุภัณฑ์ ยกเลิกการใช้พลาสติกบรรจุหูฟัง รวมถึงการเปลี่ยนถาดรองอุปกรณ์ด้านในจากพลาสติกเป็นกระดาษแทน
สำหรับการเปิดตัว Galaxy S9 ซัมซุงได้เพิ่มความพยายามในการลดขยะประเภทพลาสติกมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปลี่ยนถาดอุปกรณ์จากพลาสติกเป็นเป็นวัสดุที่ทำจากเยื่อกระดาษขึ้นรูป (Pulp-mold) และวัสดุที่ผ่านกระบวนการ Upcycle
สำหรับ Galaxy S10 และ Galaxy S20 ซัมซุงได้ขยายขอบเขตของการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น โดยการแทนที่ส่วนประกอบที่เป็นพลาสติกด้วยกระดาษ พร้อมปรับโครงสร้างต่างๆ ให้มีความเรียบง่าย โดยถาดบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดสำหรับอุปกรณ์เสริมในกล่องได้ถูกรวมเป็นถาดเยื่อกระดาษขึ้นรูปเพียงชิ้นเดียวเพื่อลดจำนวนวัสดุที่ไม่จำเป็น นอกจากนี้ ยังนำแผ่นฟิล์มป้องกันอุปกรณ์เสริมอย่างหัวชาร์จและสาย USB ออก รวมถึงเปลี่ยนวิธีเคลือบผิวอุปกรณ์เสริมจากแบบมันวาวเป็นผิวสัมผัสแบบแมตต์ เนื่องจากกระบวนการผลิตนั้นคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากกว่า อีกทั้งยังช่วยลดรอยนิ้วมือและเกิดรอยขีดข่วนได้ยากขึ้นอีกด้วย
บรรจุภัณฑ์ของสมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นล่าสุดอย่าง Galaxy S21 Series 5G ถือเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy S ทั้งหมด ทุกกล่องถูกผลิตขึ้นจากกระดาษลูกฟูกแทนกระดาษแข็งเพื่อง่ายต่อการรีไซเคิล ในขณะเดียวกัน ซัมซุงยังได้นำอุปกรณ์เสริมบางชนิด ได้แก่ ที่ชาร์จแบตเตอรี่และหูฟังในกล่องออกเพื่อลดปริมาณของบรรจุภัณฑ์ พร้อมส่งเสริมแนวคิดการใช้ซ้ำ (reuse) และการรีไซเคิลในหมู่ผู้ใช้กาแลคซี่อีกด้วย
ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อก้าวสู่อนาคต
แม้จะมีโจทย์ที่ท้าทายต่อความพร้อมของวัสดุที่ยั่งยืนและห่วงโซ่อุปทานโลกที่จำกัดจากวิกฤติโรคระบาด Covid-19 ซัมซุงยังคงเดินหน้าตามพันธกิจเพื่อต่อสู้กับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปกป้องสิ่งแวดล้อมในทุกๆ กระบวนการ
โดยในช่วงท้ายปี 2563 ซัมซุงได้บรรลุเป้าหมายในการเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล 100% หรือกระดาษที่มาจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืน[5] ซึ่งในตอนนี้ ซัมซุงได้กำหนดให้ซัพพลายเออร์ผู้ผลิตกระดาษต้องผ่านการรับรองและปฏิบัติตามมาตรฐานสากล อาทิ การรับรองจาก Forest Stewardship Council (FSC) โดยซัมซุงตระหนักดีว่าเส้นทางในการผันตัวไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบนั้นยังคงดำเนินต่อไป
ซัมซุงยังคงเดินหน้ามองหาและคิดค้นวัสดุใหม่ๆ ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อค้นหาแนวทางในการลดปริมาณวัสดุและเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ก่อนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคต โดย
ซัมซุงมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อมอบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าพัฒนาร่วมกับสายการผลิตและผู้บริโภคเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนต่อไป
ข่าวเด่น