การตลาด
สกู๊ป ''ค้าปลีก'' เปิดศึก ''Personal Shopper'' สู้วิกฤตโควิด-19 หวังดันรายได้ ''ออนไลน์'' เพิ่ม


หลังจากมีวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บรรดาผู้ประกอบการห้างค้าปลีกก็ต่างออกมาปรับตัวเพิ่มการขายในทางช่องทางออนไลน์กันอย่างคักคัก เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีพฤติกรรมหันมาช้อปปิ้งในช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น  ยิ่งช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้  ยิ่งทำให้ผู้บริโภคไม่กล้าที่จะออกจากบ้าน  ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าว  ส่งผลให้ปี 2563 ที่ผ่านมา ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยการมีมูลค่าอยู่ที่ 9,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 270,000 ล้านบาท (ข้อมูลวิจัย “เศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำปี 2563 จาก Google, Temasek และ Bain & Company)

แต่จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กินระยะเวลาค่อนยาวนานและต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้  ส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งเริ่มหันมาระมัดระวังในเรื่องของการจับจ่ายใช้สอย  ทำให้ยอดขายใช้จ่ายซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาเริ่มมีการชะลอตัว  แต่อย่างไรก็ดี  หากนำมาเปรียบเทียบกับช่องทางออฟไลน์  ช่องทางออนไลน์ยังถือว่ามีมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่า  
 
และจากการกลับมาแพร่ระบาดของของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ส่งผลให้ผู้ประกอบการห้างค้าปลีกต้องหันมาจริงจังกับการทำการตลาดในรูปแบบดังกล่าวมากขึ้น  ซึ่งหนึ่งในบริการที่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกันคือ บริการ Personal Shopper ผู้ช่วยช้อปส่วนตัว ที่จะคอยอำนวยความสะดวก แนะนำโปรโมชั่น และสิทธิพิเศษมากมายที่เหมาะกับคุณ  รวมไปถึงจัดหาสินค้าที่คุณต้องการ เหมือนได้มาช้อปปิ้งด้วยตัวเอง 
 
สำหรับผู้ประกอบการห้างค้าปลีกรายล่าสุดที่หันมาให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว คือ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ด้วยการตอกย้ำกลยุทธ์ CUSTOMER CENTRIC  ในการตระหนักและห่วงใยถึงความปลอดภัยของลูกค้าในช่วงที่โควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดอีกรอบ ด้วยการเพิ่มบริการใหม่สนองความต้องการลูกค้า กับช่องทาง “LIVE PERSONAL SHOPPER” 
 
 
น.ส.วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้น และเพื่อตอบรับยุค Digital Disruption แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้  บริษัทจะให้ความสำคัญกับการตอกย้ำกลยุทธ์ CUSTOMER CENTRIC มากขึ้นผ่านบริการ “LIVE PERSONAL SHOPPER” มิติใหม่แห่งการช้อป สะดวกสบายกับผู้ช่วยส่วนตัวที่เดินซื้อสินค้าแทน พร้อมให้คำแนะนำและช่วยเลือกสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อ และชมสินค้าได้โดยตรงกับพนักงานแบบ Real-Time ผ่านรูปแบบ VDO CALL เหมือนเดินช้อปปิ้งที่ห้างฯ ด้วยตนเอง  เพียงโทรมาช้อปสินค้าผ่านบริการ Call To Order แจ้งประเภทสินค้าและข้อมูลเบื้องต้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ Live Personal Shopper ติดต่อกลับในรูปแบบ VDO CALL 
 
ทั้งนี้  การเพิ่มบริการ LIVE PERSONAL SHOPPER ดังกล่าว ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับการทำตลาดในช่องทาง ONLINE และ OFFLINE ซึ่งปัจจุบันมีอีก 4 ช่องทางในการให้บริการกับลูกค้าอยู่  คือ
 
1.MONLINE.COM: เว็บไซต์ MONLINE.COM อยู่ที่ไหนก็ช้อปได้ แบบ “คลิกเดียวถึงห้างฯ” ช้อปได้ทุกที่ทุกเวลา สามารถเลือกช้อปได้ครบทุกแผนก ทุกแบรนด์ดัง ตลอด 24 ชั่วโมง
 
2. M Chat & Shop: แชทมา ช้อปให้ ส่งตรงถึงบ้าน ผ่านช่องทาง Line Application เพียงเพิ่มเพื่อน LINE @MonlineTH และแชทโต้ตอบกับพนักงาน สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทุกชิ้นทุกแผนกภายในห้างฯ เสมือนมาช้อปด้วยตัวเอง หรือคลิกดูสินค้าแนะนำได้ที่เว็บไซต์ www.monline.com 
 
3. Call to Order: บริการสั่งสินค้าทางโทรศัพท์ เพียงโทรมาช้อปสินค้าได้ทั้งห้างฯ ทุกชั้น   ทุกแผนก รวมทั้ง กูร์เมต์ มาร์เก็ต ผ่าน Call Center พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับ ลูกค้าสามารถเลือกรับสินค้าด้วยตนเองหรือส่งสินค้าถึงบ้านผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ Drive Thru, Pick Up และ Home Delivery 
 
4. Live Facebook: เลือกชมสินค้า พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษผ่านทาง Facebook MonlineThailand รวมสินค้าเด็ด ดีลดีสุดคุ้ม 
 
 
นอกจากนี้ ในส่วนของช่องทางการชำระเงิน เดอะมอลล์ กรุ๊ป ก็มีการเพิ่มช่องทางให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น การชำระผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตร PREPAID ,การชำระผ่าน APPLICATION ของธนาคาร ผ่าน PROMPTPAY หรือ QR-CODE , การชำระผ่าน TAP & GO , บริการ E-WALLET หรือกระเป๋าเงินออนไลน์สามารถเติมเงินเข้าสู่กระเป๋าสตางค์ออนไลน์ และบริการชำระผ่าน APPLICATION รองรับลูกค้าชาวจีนที่อาศัยในประเทศไทย สามารถรับชำระเงิน ผ่าน ALIPAY, WECHAT PAY และ UNIONPAY APPLICATION
 
ด้านบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก็มีบริการ Personal Shopper  เช่นกัน  ด้วยการใช้บริการผ่านทางเบอร์โทรศัพท์ 1425 ถือเป็นอีกช่องทางที่ทำให้ลูกค้าช้อปปิ้งได้โดยไม่ต้องมาที่ห้างฯ ซึ่งปกติแล้วบริการดังกล่าวจะสงวนไว้เฉพาะลูกค้าระดับ VIP ที่มียอดใช้จ่ายสูงเท่านั้น แต่เนื่องจากเกิดสถานการณ์ COVID-19 จึงทำให้  เซ็นทรัล รีเทล  ปลดล็อกกลยุทธ์  ด้วยการหันมาให้บริการกับลูกค้าทั่วไปด้วย
 
นายปิยะพงษ์ ธัญญศรีสังข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงาน บริหารสาขา และซัพพลายเชน บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด  กล่าวว่า ตั้งแต่การระบาดเมื่อปีก่อน บริษัทได้เตรียมแผนเพิ่มจำนวน Personal Shopper ให้มากขึ้น โดยปัจจุบันมีพนักงานผ่านการเทรนนิ่งแล้วเกือบ 1,000 คนพร้อมให้บริการ บริการ “ผู้ช่วยส่วนตัว” ในการช้อปปิ้ง ซึ่งหลังจากเริ่มเปิดให้บริการพบว่าลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี
 
 
พร้อมกันนี้ ตลอดทั้งปี เซ็นทรัล รีเทล ยังมีแผนที่จะพัฒนาระบบ Omnichannel  ตามแผนการดำเนินงานเดิม คือ การปรับให้สินค้าทั้งหมดในเครือเซ็นทรัล รีเทลมาอยู่ในแอปพลิเคชั่น  Central App เริ่มจากกลุ่มสินค้าจาก “โรบินสัน” ตามด้วยสินค้าจาก Powerbuy, Supersports และ Tops Supermarket เบื้องต้นคาดว่าบริการสินค้าในเครือจะเข้าสู่ระบบเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดภายในเดือนมิ.ย. 2564
 
จากแผนการดำเนินงานดังกล่าวเซ็นทรัล รีเทล คาดว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดีต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา  ซึ่งสินค้าที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าในการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์  5 อันดับแรกในปีที่ผ่านมา คือ ความงาม, เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน, เครื่องนอน, แม่และเด็ก และสินค้าแฟชั่นประเภทรองเท้าสนีกเกอร์วัยรุ่น 
 

LastUpdate 01/05/2564 11:58:56 โดย : Admin
07-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 7, 2024, 12:33 pm