การตลาด
สกู๊ป ''มูจิ'' ลุยขายสินค้าออนไลน์ พร้อม ''ดัมพ์'' ราคาสินค้า 333 รายการ ''ดัน'' ยอดขายเพิ่ม


ถึงแม้ว่าตอนนี้หลายประเทศจะเริ่มมีการผ่อนคลายการ Lockdown ประเทศหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้สถานประกอบการ ธุรกิจและร้านค้า  เริ่มทยอยกลับมาเริ่มเปิดกิจการใหม่ได้อีกครั้ง แต่จากผลกระทบที่เกิดขึ้นไปก่อนหน้านี้ ก็ทำให้หลายธุรกิจยังต้องประสบกับปัญหารายรับรายจ่าย  เช่นเดียวกับธุรกิจแฟชั่น และเครื่องนุ่งห่ม เนื่องจากสินค้าดังกล่าวอยู่ในกลุ่มฟุ่มเฟือย ซึ่งจากผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้บรรดาผู้ประกอบการต่างๆ ต้องออกมาปรับกลยุทธ์ในการทำตลาดที่ค่อนข้างมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม 

หนึ่งในกลยุทธ์ที่นิยมนำมาใช้ในช่วงเวลานี้ คือ การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้ เพื่อปรับตัวให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุค New Normal ซึ่งตอนหนึ่งของบทความ "อนาคตอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยสู่ยุค New Normal” ของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้นำเสนอแนวคิด “7 ขยับ ปรับเปลี่ยนโลก หรือ 7 Major Shifts” มาใช้  เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อได้หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19  ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้ คือ
 
1.จาก Free Market Model ไปสู่ Co-Creative Model จากแนวคิดตลาดเสรีที่เน้นการสร้างอำนาจเหนือตลาด ไปสู่แนวคิดร่วมสร้างสรรค์ที่เน้นการปลดปล่อยพลังปัญญามนุษย์ 2.จาก Competitive Mode of Production & Consumption ไปสู่ Collaborative Mode of Production & Consumption จากการแข่งกันผลิต/แข่งกันบริโภค ไปสู่การประสาน ร่วมมือ และแบ่งปัน 3.จาก Economic Growth ไปสู่ Thriving in Balance จากการเน้นความเติบโตทางเศรษฐกิจไปสู่การสร้างสมดุล ระหว่างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ความอยู่ดีมีสุขในสังคม ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม บนฐานรากของภูมิปัญญามนุษย์ 4.จาก People for Growth ไปสู่ Growth for People จากการมองคนเป็นทรัพยากร/ปัจจัยการผลิตเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อเอื้อการเติมเต็มศักยภาพและการปลดปล่อยพลังของมนุษย์  
 
5.จาก Economic Life ไปสู่ Hygienic Life จากชีวิตที่มุ่งหวังความร่ำรวยทางวัตถุ ไปสู่ชีวิตที่สมดุลเน้นความรุ่มรวยทางจิตใจ 6.จาก Linear Economy ไปสู่ Circular Economy จากระบบเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการผลิต โดยนำทรัพยากรมาใช้อย่างไม่ยั้งคิด ไปสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่เน้นความประหยัดในปัจจัยนำเข้า มีประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต และประโยชน์สูงสุดในผลผลิต และนำสิ่งเหลือใช้กลับมาทำประโยชน์ใหม่ เน้นความยั่งยืน 7.จาก Exploitation of the Commons ไปสู่ Remedy of the Commons จากการมุ่งใช้ประโยชน์จากส่วนรวม ไปสู่การฟื้นฟู เยียวยา รักษาผลประโยชน์ส่วนรวม
 
 
อย่างไรก็ดี เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินต่อไปได้ กลยุทธ์ที่สามารถหยิบมาใช้ได้ทันทีนั่นก็ คือ การเพิ่มช่องทางการขายสินค้าออนไลน์  และทำโปรโมชั่น เช่นเดียวกับสินค้าแบรนด์ มูจิ (MUJI) ที่ล่าสุดได้ออกมาจับมือกับ Lazada แพลทฟอร์มอี-มาร์เก็ตเพลสรายใหญ่ของไทย  ด้วยการนำสินค้ากว่า 398 รายการ มาจำหน่ายในช่องทางดังกล่าว 
 
ขณะเดียวกันก็เดินหน้าขยายสาขาจำหน่ายในช่องทางควบคู่กันไป เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น โดยล่าสุด ได้เปิดตัวสาขาใหม่เป็นสาขาที่ 22 ในประเทศไทย ที่บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าซีคอนบางแค บนพื้นที่ให้บริการ 1,310 ตารางเมตร โดยยังคงการออกแบบสาขาที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยสไตล์ “มินิมัลลิสต์” จัดพื้นที่เป็นสัดส่วนให้เลือกชมและซื้อผลิตภัณฑ์รวมทั้งบริการของ มูจิ ได้ง่ายขึ้น และครบถ้วนทุกบริการ โดยการเปิด MUJI Coffer Corner ร้านกาแฟ MUJI สาขาที่ 5 ของประเทศไทย พร้อมเปิดให้บริการ MUJI Interior Consultation Service ให้คำปรึกษาด้านออกแบบภายใน โดยลูกค้าสามารถปรึกษาหรือขอคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ หรือปัญหาด้านการจัดเก็บพื้นที่ที่จำกัดเอาใจคนชอบแต่งบ้านสไตล์มินิมอล และบริการตัดขากางเกงฟรี! 
 
 
นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มูจิที่สาขาศูนย์การค้าซีคอนบางแค นอกจากจะมี MUJI Coffer Corner หรือร้านกาแฟ MUJI , บริการ MUJI Interior Consultation Service ให้ปรึกษาด้านออกแบบภายใน และบริการตัดขากางเกงฟรี! แล้ว ภายในสาขาดังกล่าวยังจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ กลุ่มเครื่องดื่มวางจำหน่ายในสาขา ตั้งแต่น้ำแร่ (Mineral water) มัชชะลาเต้ (Matcha Latte) โฮจิชะลาเต้ (Hojicha Latte) น้ำมัลเบอรี่ (Mulberry Juice) น้ำแพชชั่นฟลุต ( Passion Fruit) ชาอู่หลง (Oolong Tea) น้ำมะม่วงมหาชนก (Mahachanok Mango Juice) และน้ำผลไม้รวมต่างๆ ในตู้แช่เย็นพร้อมดื่ม หรือซื้อกลับบ้าน
 
นอกจากนี้  ยังจะเดินหน้ากลยุทธ์ขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านทางออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ โดยจับมือกับ Lazada แพลทฟอร์มอีมาร์เกตเพลสแนวหน้าของประเทศไทย โดยมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ MUJI กว่า 398 ราย ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสินค้าอย่างจุใจในราคาพิเศษ เนื่องจาก มูจิ ได้มีการจัดแคมเปญพิเศษ Muji Super Grand Opening Day เพื่อฉลองเปิดตัวอย่างเป็นทางการของสาขาศูนย์การค้าซีคอนบางแค ด้วยการนำสินค้าจำนวน 184 รายการ  ในหมวดสินค้าเสื้อผ้า และหมวดสินค้าครัวเรือน มาจำหน่ายในราคาพิเศษ เฉพาะวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา 
 
นายอกิฮิโร่ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้เคยขยายช่องทางการทำตลาดออนไลน์ไปแล้วบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของเซ็นทรัล  เพื่อเพิ่มช่องทางขายบนโลกออนไลน์ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่นิยมหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากทำการตลาดผ่านช่องทางดังกล่าวก็พบว่า ลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งหลังจากจับมือกับ Lazada ในครั้งนี้  บริษัทก็มั่นใจว่าจะได้ผลการตอบรับจากลูกค้าดีเช่นกัน   
 
 
ทั้งนี้ เพื่อให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ล่าสุด มูจิ ได้มีการปรับลดราคาสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้าและกลุ่มของใช้ในบ้านอีก รวม 333 รายการ ประกอบด้วย ปรับลดราคาสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าสูงสุด 40% รวม 98 รายการ อาทิ รองเท้าผ้าใบ รองเท้าใส่ในบ้าน รองเท้าแตะ ร่มพับ เสื้อเชิ้ต เสื้อยืด กางเกงยีน และกางเกงขาสั้น เป็นต้น
 
ส่วนกลุ่มของใช้ในบ้านก็ได้มีการปรับลดราคาสูงสุด 52% จำนวน 235 รายการ ได้แก่ กล่องเก็บของโพลีโพรพิลีน อุปกรณ์จัดเก็บแบบอะคริลิก อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร และสินค้าจากไม้อะคาเซีย โดยจะเริ่มลดราคาสินค้าตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. เป็นต้นไป โดยลูกค้าสามารถซื้อสินค้าในกลุ่มดังกล่าวได้ในราคาพิเศษทั้งในช่องทางออนไลน์ และหน้าร้านมูจิ ทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากใช้กลยุทธ์ดังกล่าวในการทำตลาด มูจิ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้
 

LastUpdate 29/05/2564 11:32:56 โดย : Admin
07-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 7, 2024, 9:48 am