บมจ.แอดเทค ฮับ (ADD) เดินหน้าเพิ่มทีมพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลคอนเทนต์ รองรับขยายฐานลูกค้าใหม่ หนุนการต่อยอดการลงทุนสู่การเติบโตในอนาคต พร้อมสบช่องเจรจาโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ ลุ้นรับงานโปรเจคใหม่ คาดมีความชัดเจนช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อหากปิดดีลสำเร็จจ่อบุ๊ครายได้ทันที พร้อมส่งซิกภาพรวมธุรกิจหลังจากนี้ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ชี้ยอดใช้บริการคอนเทนต์ผ่านมือถือโตไม่หยุด
นายสมโภช ทนุตันติวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท แอดเทค ฮับ จำกัด (มหาชน) หรือ ADD ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการระบบสนับสนุนบริการดิจิทัลคอนเทนต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำศักยภาพความแข็งแกร่งของ บริษัทฯ ด้านการเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาและดูแลรักษาระบบสนับสนุนการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ และให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับลูกค้าโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ ล่าสุดบริษัทฯได้เร่งขยายและต่อยอดการลงทุนเพื่อรองรับแผนการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต โดยเพิ่มจำนวนบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อตอบสนองการรองรับความต้องการของผู้ประกอบการทั้งในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม รวมถึง อุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้องที่จำเป็นต้องพัฒนารูปแบบการทำงานให้ทันกับโลกยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์ การชำระเงินทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ และการพัฒนาโปรแกรมและแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตจากการขยายการให้บริการของโอเปอเรเตอร์ ทั้งในรูปแบบ 4G และ 5G ในอนาคตตามแผนที่วางไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ เพื่อสอดรับกับการเป็นตัวกลางการให้บริการที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อและพัฒนาแพลตฟอร์มในการจัดส่งคอนเทนต์ไปยังผู้บริโภค ADD ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับโอเปอเรเตอร์ เพื่อที่จะให้บริการด้าน Digital Content Support และให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Digital Solution) เพิ่มเติมอีก 2-3 โปรเจค โดยคาดว่าจะทยอยได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งหากดีลดังกล่าวแล้วเสร็จ บริษัทฯจะใช้ระยะเวลาในการพัฒนาแพลตฟอร์ม 2-3 เดือน ซึ่งก็จะส่งผลให้บริษัทฯสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันทีในช่วงครึ่งปีหลัง และจะรับรู้เต็มปีในปี 2565
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ADD กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากพิจารณาแนวโน้มการเติบโตของ ADD เชื่อว่ายังคงโตอย่างต่อเนื่องจากภาพรวมของตลาด Digital content ในประเทศที่มีมูลค่ามากกว่า 60,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกันทิศทางการเติบโตของโอเปอเรเตอร์ได้มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจ Non-Voice และ Digital Content มากขึ้น หลังจากที่มีการให้บริการบนคลื่นความถี่ต่างๆ ทั้งในรูปแบบ 4G และ 5G หนุนให้มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม Digital content ใหม่ๆออกมารองรับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้บริการ Digital content ในรูปแบบการสมัครสมาชิกที่ทยอยออกมาสู่ตลาดก่อนหน้านี้ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
สำหรับแนวโน้มภาพรวมธุรกิจหลังจากนี้ บริษัทฯมองว่ายังคงมีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้เป็นผลจากปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital content) ที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบกับการทำงานของทั้งภาครัฐและเอกชนมาเป็นการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ขณะเดียวกันบริษัทฯยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากระบบชำระเงินค่าบริการหรือสินค้าผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Carrier Billing) ซึ่งเป็นไปตามความต้องการใช้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสะดวกและรวดเร็ว สามารถเข้าถึงการบริการได้ทุกที่ทุกเวลา
“ภาพรวมของ ADD ในปี 2564 คาดว่าธุรกิจจะมีการขยายตัวที่ดีต่อเนื่องตลอดทั้งปี หลังจากในช่วงไตรมาส 4/2563 บริษัทฯได้สัญญาใหม่ 1 โปรเจคในการให้บริการสนับสนุนดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content Support) ให้แก่โอเปอเรเตอร์ ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาในปี 2564 เต็มปี พร้อมกันนี้ โครงการ Digital Content Support อื่นๆที่ได้ให้บริการแก่โอเปอเรเตอร์ไปก่อนหน้านี้ ก็มีผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นด้วย” นายสมโภช กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวเด่น