บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด (บลจ.เกียรตินาคินภัทร) เผยเทรนด์การลงทุนช่วงนี้เป็นจังหวะที่ดีสำหรับการทยอยเข้าลงทุนในตลาดหุ้นโลก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์หรือหุ้นนวัตกรรม ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตระยะยาวจากความต้องการชิ้นส่วนการผลิตเครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์ไฟฟ้า รถยนต์ และคอมพิวเตอร์ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก บลจ.เกียรตินาคินภัทร จึงได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดเคเคพี เซมิคอนดักเตอร์ เฮดจ์ (KKP SEMICON-H) ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนและรับประโยชน์หุ้นกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตดีในระยะยาวให้แก่นักลงทุนไทย โดยเริ่มเสนอขายครั้งแรก ระหว่างวันที่ 29 มิ.ย. – 6 ก.ค. 2564 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.เกียรตินาคินภัทร มองเห็นโอกาสการเติบโตในระยะยาว จากการลงทุนในกองทุนหุ้นต่างประเทศในกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (semiconductor) จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเคเคพี เซมิคอนดักเตอร์ เฮดจ์ (KKP SEMICON-H) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้มีส่วนร่วมกับการเติบโตของกลุ่มธุรกิจนี้ อีกทั้งเป็นทางเลือกกระจายการลงทุน โดยผู้ลงทุนสามารถพิจารณาแบ่งสัดส่วนการลงทุนได้ตามความเสี่ยงที่เหมาะกับตนเอง โดยกองทุน KKP SEMICON-H จะเน้นลงทุนในกองทุนหลักต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวคือ iShares Semiconductor ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งมุ่งลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สอดคล้องกับดัชนี ICE Semiconductor Index (ดัชนีอ้างอิง) อันประกอบไปด้วยหุ้นของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนให้กับผู้ลงทุน กองทุน KKP SEMICON-H จะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด คือไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ
“ด้านมุมมองการลงทุน ตลาดหุ้นโลกในช่วงห้าเดือนแรกของปี 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อนได้ถึง 11.9% จากการลดลงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการแจกจ่ายวัคซีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ช่วยให้หลายเมืองสามารถกลับมาเปิดดำเนินกิจกรรมเศรษฐกิจได้ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทางด้านการเงินและการคลังจากหลายประเทศ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกโดยส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาดการณ์และตัวเลขชี้นำทางเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มปรับสูงขึ้น ทำให้เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการ FOMC (The Federal Open Market Committee) ของ FED ได้ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 2 ครั้งในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะเริ่มปรับขึ้นในปี 2567 มีผลทำให้ตลาดหุ้นโลกในระยะสั้นผันผวน จากความกังวลเรื่องการปรับเปลี่ยนนโยบายและการลดการอัดฉีดสภาพคล่องในระบบที่เร็วกว่าที่คาด
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตลาดหุ้นโลกยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ในระยะยาวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากการเปิดให้เดินทางระหว่างประเทศและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในบางพื้นที่เริ่มกลับมาเป็นปกติ ด้วยเหตุนี้ ทาง บลจ.เกียรตินาคินภัทร มองว่า ความผันผวนของตลาดหุ้นโลกในช่วงสั้นจากความกังวลเรื่องการปรับนโยบายทางเงินและการคลัง เป็นจังหวะดีสำหรับการทยอยเข้าลงทุนในตลาดหุ้นโลก โดยเฉพาะในธีม การลงทุนที่มีการเติบโตในระยะยาวและสอดคล้องกับแนวโน้มพฤติกรรมการบริโภคแนวใหม่ อาทิ หุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญและจำเป็นในการผลิตเครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์ไฟฟ้า ตลอดจนรถยนต์ไฟฟ้า บลจ.เกียรตินาคินภัทร จึงนำเสนอกองทุนเปิด KKP SEMICON-H เพื่อเปิดโอกาสให้แก่ผู้ลงทุนไทยได้ลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตดีในระยะยาว” นายยุทธพลกล่าว
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถขอรับหนังสือชี้ชวนและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02 305 9559 หรือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทรทุกสาขา หรือ https://am.kkpfg.com หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง
ข้อมูลกองทุน KKP SEMICON-H:
*เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 29 มิ.ย. – 6 ก.ค. 2564 เวลา 8.30-16.30 น.
*มูลค่าขั้นต่ำในการซื้อ 1,000 บาท
*ค่าธรรมเนียมการขาย: ยกเว้น
คำเตือน :
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และ
ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
*เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม รวมถึงความเสี่ยงที่เกิดจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศที่กองทุนไปลงทุนด้วย
*กองทุนจะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด โดยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ กองทุนจึงอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนที่ไม่ได้ทำการป้องกันความเสี่ยงไว้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ นอกจากนี้ การทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวอาจมีต้นทุน ซึ่งทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
*กองทุนมีนโยบายการลงทุนเฉพาะเจาะจงในหมวดอุตสาหกรรมจึงมีความเสี่ยงและความผันผวนของราคาสูงกว่ากองทุนรวมทั่วไปที่มีการกระจายการลงทุนในหลายอุตสาหกรรม
*กองทุนอาจลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.เกียรตินาคินภัทร ได้ตามอัตราส่วนที่กำหนด โดย บลจ.เกียรตินาคินภัทร จะจัดระบบงานที่ป้องกันธุรกรรมที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์อันอาจเกิดจากนโยบายการลงทุนที่เปิดให้มีการลงทุนในกองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทจัดการเดียวกัน
*โปรดศึกษาคำเตือนที่สำคัญอื่นได้ในหนังสือชี้ชวนข้อมูลกองทุนรวม
ข่าวเด่น