คิกออฟไปเรียบร้อย สำหรับ”โครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้” หนึ่งในมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยรัฐจะเป็นผู้สนับสนุนให้ประชาชนจับจ่ายซื้อและบริการต่างๆ กับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ติดตั้งแอปพลิเคชั่น "ถุงเงิน" ที่เข้าร่วมโครงการ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าแฟชั่น ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ และสินค้าอื่นๆ โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องใช้จ่ายเงินผ่าน "G-Wallet" บนแอพฯ "เป๋าตัง" ระหว่างวันที่ 1 ก.ค. – 30 พ.ย. 2564
สำหรับวงเงินที่ผู้เข้าร่วมโครงการนำไปใช้จ่าย ทางกระทรวงการคลังจะมีการนำมาคำนวณสิทธิผ่าน e-Voucher ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน โดยยอดใช้จ่ายที่นำมาคำนวณสิทธิจะต้องไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน ขณะที่ยอด e- Voucher ที่จะได้รับตลอดระยะเวลาโครงการจะสามารถสะสมได้สูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน จากวงเงินต่อสิทธิ์ต่อคนที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับมีการคาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจากโครงการดังกล่าว เป็นเม็ดเงินสูงถึง 2.68 แสนล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการค้าปลีกต่างๆ ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ กันอย่างคึกคัก
น.ส.วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เพื่อเป็นการขานรับโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” และปลุกกำลังซื้อของผู้บริโภค เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย บริษัทจึงได้มีการขานรับเข้าร่วมโครงการดังกล่าว เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของผู้ที่เข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เป็นกลุ่มคนไทยที่มีกำลังซื้อสูง อีกทั้งผู้ที่เข้าร่วมโครงการก็มีถึง 4 ล้านคน ดังนั้น บริษัทจึงได้ใช้งบกว่า 40 ล้านบาท จัดแคมเปญ “ช้อปช่วยไทย #ยิ่งช้อปยิ่งได้” ขึ้นระหว่างวันที่ 25 มิ.ย. – 28 ก.ค. 2564 ที่ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์งามวงศ์วาน, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ด้วยการผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจ คู่ค้า ร้านค้าภายในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และออนไลน์ นำสินค้ามาลดสูงสุดถึง 80% เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ทุกสาขา ก็มีการจัดโปรโมชั่นสุดคุ้ม กิน-ช้อป ภายในศูนย์ฯ โดยเมื่อลูกค้าซื้อสินค้าครบตามกำหนดจะได้รับเงินคืนรวมสูงสุด 3,200 บาท หรือเลือกรับ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ในศูนย์ฯ ผ่านแอปเป๋าตัง และรับบัตรกำนัล ซึ่งลูกค้าท่านไหนที่สามารถสะสมยอดเป็น 40 Top Spenders ก็จะได้รับทองคำเป็นของสมนาคุณอีกด้วย
น.ส.วรลักษณ์ กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลา 34 วันของการจัดแคมเปญ “ช้อปช่วยไทย #ยิ่งช้อปยิ่งได้” ถ้าลูกค้าท่านไหนมาช้อปปิ้งที่ เดอะมอลล์, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ จะได้รับส่วนลดสูงสุด 70% ยกห้าง ขณะที่สมาชิก M Card จะได้รับความพิเศษ 2 ต่อ คือ
1.รับ Cash Coupon สูงสุด 7,000 บาท (Cash coupon 6,500 บาท และ Cash Discount Code Coupon 500 บาทสำหรับใช้ที่ Monline.com) ไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์!! เมื่อช้อปภายในห้างฯครบตามที่กำหนด
2.ในช่วงวันที่ 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 2564 หากลูกค้าเข้ามาใช้จ่ายภายในห้างฯ ผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ครบตามที่ภาครัฐกำหนด รับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ E -Voucher คืนไปอีกรวมสูงสุด 7,000 บาท เป็นต้น
ด้าน น.ส.รวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด และบริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ห้างเซ็นทรัลและห้างโรบินสัน พร้อมเดินหน้าร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ด้วยการตอบรับเข้าโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ ด้วยการจัดแคมเปญ Central / Robinson 7.7 ตั้งแต่วันที่ 1-7 ก.ค. 2564 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เริ่มโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ และเพื่อให้ลูกค้าได้รับความพิเศษต่อเนื่องกับแคมเปญ Central / Robinson Shop Shop #HUGTHAIS ไทยช่วยไทย รวมใจช้อป บริษัทจึงได้มีการยกทัพสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำ ทุกชั้น ทุกแผนก มาจัดโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค
สำหรับสิทธิพิเศษที่ลูกค้าจะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการดังกล่าว คือ สมาชิก เดอะวัน มาช้อปปิ้งที่ห้างเซ็นทรัล และโรบินสัน เมื่อชำระเงินผ่านแอปเป๋าตัง ครบ 5,000 บาทขึ้นไปต่อวัน จะได้รับคูปองแทนเงินสดหรือคูปองส่วนลดรวมสูงสุด 500 บาท (จำนวนจำกัด เมื่อช้อปตามเงื่อนไข) และรับ E- Voucher จากภาครัฐ 500 บาท รวม 1,000 บาท
นอกจากนี้ ยังจะได้รับส่วนลดพิเศษสูงสุด 50% และหากใช้คะแนนสะสมจากจากบัตร เดอะวัน จะได้รับส่วนลดเพิ่มและรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 30% จากเดอะบัตรเดอะวันและบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ อีกทั้งยังจะได้รับคูปองแทนเงินสดหรือคูปองส่วนลดและเครดิตเงินคืนสูงสุด 9,000 บาท และรับเพิ่ม E-Voucher จากภาครัฐ รวมสูงสุด 7,000 บาท (ตามเงื่อนไขที่ภาครัฐกำหนด)
นายจักรภพ ปิยะรัตน์ Head of property management ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัว ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ทั้ง 24 สาขาทั่วประเทศ ร่วมสนับสนุนโครงการ ยิ่งใช้ ยิ่งได้ ผ่านแคมเปญ Robinson Lifestyle Mall Shop Shop #HUGTHAIS ไทยช่วยไทย รวมใจช้อป ด้วยการมอบส่วนลดสูงถึง 90% ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ และสิทธิพิเศษอื่นๆมากมาย
ปัจจุบันมีร้านค้าที่ตอบรับเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 200 ร้านค้า เช่น ท็อปส์มาร์เก็ต, ซูเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์บาย, ออฟฟิศเมท, บีทูเอส, วัตสัน, แฟมิลี่มาร์ท, เอ็มเค เรสโตรองต์, เคเอฟซี, ยาโยอิ, แหลมเจริญ ซีฟู้ด, ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริลล์, ฮองอะจิ ราเมน, มิสเตอร์ โดนัท, อานตี้ แอนส์ ,เจมาร์ท, ออปโป แบรนด์ ช็อป, แว่นท็อปเจริญ, เค-ที ออพติค, โอเรียนทอล พริ้นเซส, ออโต้วัน, เอทูแซด ฯลฯ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ร่วมโครงการคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปกติไม่ต่ำกว่า 20%
ในส่วนของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ก็ตบเท้าเข้าร่วมโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ เช่นกัน ด้วยการนำสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 10,000 รายการ มาจัดโปรโมชั่นพิเศษ ลดสูงสุด 50% เช่น อาหารและเครื่องดื่ม สินค้ายกแพ็ค โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ไอที
นอกจากนี้ ยังนำธุรกิจในเครือมาเข้าร่วมโครงการด้วย ไม่ว่าจะเป็น ร้านกาแฟออลล์ คาเฟ่ ร้านเบลลินี่ เบค แอนด์ บรู ร้านกาแฟคัดสรร หรือร้านยาเพื่อชุมชนเอ็กซ์ต้า พลัส เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงที่มีรายได้ลดลง จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
จากแคมเปญที่แต่ละห้างค้าปลีกออกมาเปิดตัว เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค น่าจะช่วยให้เม็ดเงินหมุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน
ข่าวเด่น