กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้แทนไทยนำอาเซียนหารือฮ่องกงในการประชุมคณะกรรมการร่วมกำกับการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง ครั้งที่ 2 อัพเดตความคืบหน้าการเจรจาการลงทุน กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดเฉพาะรายสินค้า และการบังคับใช้ตารางการลดภาษีของสมาชิก เผยข่าวดี ที่ประชุมเห็นชอบขยายความร่วมมือภายใต้ความตกลงฯ เพิ่มเติม 5 สาขา
นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้เข้าร่วมการประชุมและทำหน้าที่ประธานฝ่ายอาเซียนในการประชุมคณะกรรมการร่วมกำกับการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (ASEAN-Hong Kong FTA-Joint Committee: AHKFTA-JC) ครั้งที่ 2 ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
นายดวงอาทิตย์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีการหารือประเด็นสำคัญ อาทิ รับทราบความคืบหน้าการเจรจาเรื่อง การลงทุน กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดเฉพาะรายสินค้า (Product Specific Rules: PSRs) และการบังคับใช้ตารางการลดภาษี (Tariff Reduction Schedules) ที่มีการแปลงพิกัดจาก HS2012 เป็น HS2017 ของภาคีสมาชิก ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงบรูไน ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และที่ประชุมได้เห็นชอบขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการภายใต้ความตกลง AHKFTA เพิ่มเติมใน 5 สาขา ได้แก่ 1) สุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) 2) มาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค 3) ทรัพย์สินทางปัญญา 4) เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า และ 5) การส่งเสริมการลงทุน จากเดิมที่เห็นชอบแล้ว 5 สาขา ได้แก่ 1) บริการวิชาชีพ 2) พิธีการศุลกากร 3) การอำนวยความสะดวกทางการค้า/ โลจิสติกส์ 4) SMEs และ 5) พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ ฮ่องกงได้ให้งบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวเป็นมูลค่ากว่า 25 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 105 ล้านบาท) ซึ่งเป็นประโยชน์แก่อาเซียนรวมถึงไทยในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ ตลอดจนการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้สอดคล้องกับบริบทและสถานการณ์ปัจจุบัน โดยที่ผ่านมาไทยได้รับเงินสนับสนุนการดำเนินโครงการแล้ว 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 9.8 ล้านบาท
นายดวงอาทิตย์ เพิ่มเติมว่า ไทยมีความตกลงกับฮ่องกง 2 ฉบับ คือ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (AHKFTA) และความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน-ฮ่องกง (AHKIA) ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ครอบคลุมการเปิดเสรีการค้าสินค้าและการค้าบริการ การส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ โดยภายใต้ความตกลงดังกล่าว ฮ่องกงได้ยกเว้นภาษีศุลกากรให้กับสินค้าส่งออกจากไทยทุกรายการแล้ว รวมทั้งอนุญาตให้ผู้ประกอบการไทยสามารถไปลงทุนในฮ่องกงโดยถือหุ้นได้ 100% ในสาขาบริการต่างๆ 77 สาขา เช่น บริการด้านโสตทัศน์ บริการด้านการก่อสร้าง บริการด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น รวมทั้งยังให้การคุ้มครองการลงทุนหลังจัดตั้งธุรกิจและจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนของทั้งอาเซียนและฮ่องกงด้วย
ทั้งนี้ ฮ่องกงเป็นคู่ค้าอันดับ 8 ของไทย โดยช่วง 5 เดือนแรกของปี 2564 การค้าระหว่างไทยกับฮ่องกง
มีมูลค่า 5,672.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (171,694.7 ล้านบาท) เป็นการส่งออกจากไทยไปฮ่องกงมูลค่า 4,546.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (137,499.96 ล้านบาท) และนำเข้าจากฮ่องกงมูลค่า 1,125.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (30,643.15 ล้านบาท) สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว และข้าว เป็นต้น ขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อัญมณีและเครื่องประดับ ผ้าผืน และเสื้อผ้าสำเร็จรูป
ข่าวเด่น