ทองคำเคลื่อนไหว Sideway ในกรอบ 1,780-1,830 ดอลล์
ตัวเลขรายใหม่โควิดพุ่งกดดันดัชนี Sideway Down
ราคาทองคำในสัปดาห์ก่อนแกว่งตัวออกข้าง แม้ว่าจะได้ปัจจัยบวกจากการแพร่ระบาดไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา โดยล่าสุด ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) แถลงว่า ขณะนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาคิดเป็น 83% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด สูงกว่าระดับ 50% ที่พบในช่วงวันที่ 27 มิ.ย.-3 ก.ค. 2564
ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลตาสามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 43-90% นอกจากนี้ทองคำรับแรงหนุจาก ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% อีกทั้งคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหว Sideway ในกรอบ 1,780-1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยใช้กลยุทธ์ลงซื้อขึ้นขาย เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระทบ และแนะนำให้ติดตามผลการประชุมเฟดเดือน ส.ค. หรือ ก.ย. ที่คาดว่าจะมีการปรับลดวงเงิน QE ลงซึ่งเป็นผลลบต่อราคาทองคำ
ส่วนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ก.ค.) ดัชนีปรับตัวลง โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงการซื้อ-ขาย เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงทำระดับสูงต่อเนื่อง กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หน้าหุ้นที่ปรับตัวขึ้นส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก อย่างหุ้นกลุ่มเดินเรือ กลุ่มเหล็ก แต่หุ้นใหญ่ปรับตัวลง เป็นตัวกดดันดัชนี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,545.10 จุด -7.26 จุด -0.47% มูลค่าการซื้อขาย 59,264 ล้่นบาท
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวในลักษณะ Sideway Down โดยแรงกดดันหลักยังอยู่ที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในประเทศที่ทำระดับสูงสุดใหม่ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,520-1,565 จุด
สำหรับ 2 หลักทรัพย์ ที่น่าจับตาดูในสัปดาห์นี้ได้แก่ ASIAN โดยราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 20.80 บาท ทยอยไต่ระดับขึ้น โดยมี Volume สะสมต่อเนื่อง และ Slow sto. ส่งสัญญาณบวกหนุน หากผ่าน High เดิมที่ 21.40 บาท ลุ้นทดสอบต้านถัดไปที่ 23.00 บาท แนวรับอยู่ที่ 20.20 บาท และจุด cut loss อยู่ที่ 20.00 บาท
และหุ้น ROJNA ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 7.15 บาท ดีดตัวกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ พร้อมปริมณซื้อขายเพิ่มขึ้นชัดเจน ประกอบกับ Slow Sto. เพิ่งสัญญาณบวกวันแรก คาดราคามีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 7.50-7.85 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 6.90 บาท และมีจุด cut loss ที่ 6.80 บาท
ข่าวเด่น