“ศิครินทร์” ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/64 กำไรสุทธิโตแกร่ง 75% แตะ 146.7 ล้านบาท หลังรายได้เติบโตต่อเนื่อง ทั้ง YoY และ QoQ จากกลุ่มคนไข้รักษาโรคเฉพาะทางที่ซับซ้อนด้วยการผ่าตัด ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำมาร์จิ้นได้ดี และกลุ่มคนไข้ประกันสังคมที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น รวมถึงการร่วมมือกับภาครัฐในการออกตรวจเชิงรุกและการรับรักษาผ่านสถานพยาบาลผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel)”
นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKR ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่และบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่น ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในกลุ่ม ESG Emerging List (ทำเนียบกลุ่มบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน) ปี 2564 เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 1,198.2 ล้านบาท เติบโตทั้ง YoY และ QoQ โดยเพิ่มขึ้น 330.9 ล้านบาท หรือเติบโต 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 200.34 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 20% เทียบจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีกำไรสุทธิ จำนวน 146.7 ล้านบาท เติบโต 75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิที่ 83.7 ล้านบาท
สาเหตุการเพิ่มขึ้นทั้งรายได้และกำไรสุทธิมาจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้รับบริการรักษาโรคเฉพาะทางที่ต้องมีการผ่าตัดและกลุ่มผู้เข้ารับบริการโดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม รวมถึงการร่วมมือกับภาครัฐในการออกตรวจเชิงรุกและการรับรักษาผ่านสถานพยาบาลผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) โดยโรงพยาบาลศิครินทร์ ร่วมกับ สำนักงานประกันสังคม เปิดตัวโครงการ “Hospitel เพื่อผู้ประกันตน” ที่ โรงแรม เดอะ ทวิน ทาวเวอร์ เป็นสถานพยาบาลผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) จำนวน 500 เตียง เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่ผู้ประกันตนและเป็นการลดการติดต่อแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และโรงพยาบาลในเครืออีก 2 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลศิครินทร์ สมุทรปราการ และ โรงพยาบาลศิครินทร์ หาดใหญ่ ร่วมกับ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ออกหน่วยตรวจคัดกรองเชิงรุกโควิด-19 โดยตรวจวิเคราะห์แบบ RT-PCR สำหรับผู้ประกันตนในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดสงขลา
ขณะที่ค่าใช้จ่ายการดำเนินการรวมค่าเสื่อมราคาไตรมาส 2/2564 อยู่ที่จำนวน 997.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.6% จากจำนวน 781.9 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2/2563 เป็นผลมาจากต้นทุนการรักษาพยาบาล จำนวน 797.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.7 ล้านบาท หรือ 31% จากไตรมาสที่ 2/2563 สาเหตุหลักมาจากการออกตรวจเชิงรุกและการรับรักษาผ่านสถานพยาบาลผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) จำนวน 500 เตียง ทั้งนี้ในส่วนการบริหารต้นทุนของการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ยังทำได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนของต้นทุนกิจการโรงพยาบาลต่อรายได้จากกิจการโรงพยาบาล อยู่ที่ 67.43% ลดลง 4.42% จาก 71.85% ในไตรมาสที่ 2/2563
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง 2564 นั้น นายสุริยันต์ มั่นใจว่า ยังคงเติบโตต่อเนื่องจาก 2 ธุรกิจหลัก คือ 1. กลุ่ม Hospital มุ่งเน้นรายได้จากการรักษาโรคเฉพาะทางที่ซับซ้อนด้วยการผ่าตัด ซึ่งในไตรมาสที่ 3 จะมีการเปิดตัว “สถาบันสุขภาพเฉพาะทางสตรี” ส่วนรายได้จากการดูแลลูกค้าสุขภาพดี ผ่าน BeBetter Center ยังคงสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 เครือโรงพยาบาลศิครินทร์ ร่วมมือกับภาครัฐในการออกตรวจเชิงรุกและการรับรักษาผ่านสถานพยาบาลผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) เพิ่มเป็น 2,500 เตียง ซึ่งถือเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนเตียง และช่วยทำให้ประชาชนที่ป่วย Covid-19 เข้าถึงการรักษาได้เร็วขึ้นและมากขึ้น ส่วนที่ 2. กลุ่ม Non-Hospital หลังจากเปิดตัว สินค้าเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 1 หมื่นขวดภายในระยะเวลา 1 เดือน โดยจากนี้จะมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ เข้ามา เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น
“ในปี 2564 นี้ หลังจาก SKR ติดทำเนียบกลุ่มบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน รวมถึงโรงพยาบาลศิครินทร์ ได้รับรางวัล Pathway to Excellence Program จากสมาคมการพยาบาลแห่งสหรัฐอเมริกา American Nurses Credentialing Center (ANCC) ต่อจากนี้เรามุ่งสร้างการรับรู้ของลูกค้าภายใต้แนวคิด “ศิครินทร์ เคียงข้างคุณ” ผ่าน 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ กลุ่ม Hospital และกลุ่ม Non-Hospital บน Platform รูปแบบใหม่ เพื่อการก้าวสู่ Healthcare Solution ในอนาคต” นายสุริยันต์ กล่าว
ข่าวเด่น