บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จำกัด บริษัทผู้จดทะเบียนสถานประกอบการนำเข้าเครื่องมือแพทย์ และได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาไทย (อย.) ในการจัดหาและนำเข้าชุดผลิตภัณฑ์ทดสอบโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen self-test Test Kits : ATK) ภายใต้ชื่อ “SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test” ซึ่งผลิตโดย Beijing Lepu Medical Technology Co., Ltd. จากสาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็นผู้ชนะการประมูลงานจากองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ดำเนินงานภายใต้โครงการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อแจกให้ประชาชนใช้ตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วยตนเอง จำนวน 8.5 ล้านชุด
ข่าวการเป็นผู้ชนะการประมูลชุด ATK 8.5 ล้านชิ้น เป็นเพียงข่าวดีเพียงชั่วข้ามคืน บริษัทฯ กลับเจอปัญหารุมเร้าหลายระลอกจากชมรมแพทย์ชนบท จนถูกชะลอการทำสัญญาซื้อชุดตรวจ ATK และยังเปิดประเด็นข่าวในด้านลบที่ดำเนินอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ชนิดมองหาจุดจบของปัญหาไม่เจอ
ชมรมแพทย์ชนบท เริ่มเปิดประเด็นสินค้าไม่ได้คุณภาพ ถูก FDA สหรัฐอเมริกาสั่งเก็บ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง ทางโรงงานผู้ผลิต Beijing Lepu Medical Technology Co., Ltd. จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่ได้ทำการยื่นขอ อย.ของ FDA อเมริกา จึงไม่ได้มีการนำเข้าอย่างถูกต้อง โดยมีผู้ประกอบการรายย่อยลักลอบนำเข้าไปขาย รวมถึงชุดตรวจที่เป็นปัญหาก็คือชุดตรวจหาเชื้อจากเลือด ไม่ใช่ตรวจหาเชื้อจากโพรงจมูก ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ชี้แจงคุณภาพด้วยการยืนยันด้วยหลักฐานว่า ผลิตภัณฑ์ LEPU เป็น ATK มีคุณภาพระดับโลก ผ่านการรับรองมาตรฐานจากเยอรมัน มีมาตรฐานคุณภาพระดับยุโรป ในนานาประเทศใช้ ATK ของ LEPU เป็น ATK หลักของประเทศ เช่น ออสเตรียใช้ ATK ของ LEPU สำหรับให้เด็กนักเรียนใช้ก่อนเข้าเรียน และอีกมากมายกว่า 20 ประเทศทั่วโลกที่ยอมรับในคุณภาพของ LEPU ที่ผลิตจาก Beijing Lepu Medical Technology Co., Ltd.ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่มาตรฐานโลกที่ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำคัญๆ ของโลกมากว่า 20 ปี
ประเด็นที่สองตามมาจากชมรมแพทย์ชนบทอีกครั้งว่า มีผลงานวิจัยในประเด็นด้านคุณภาพและผลการทดสอบในประเทศปากีสถาน พบว่าในผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ LEPU มีความไวน้อย กล่าวคือมีเชื้อ แต่ผลการทดสอบกลับเป็นลบ แต่ความเป็นจริง ปรากฏว่า ประชาชนที่ปากีสถานได้ใช้งานชุดตรวจผิดประเภท มีการนำผลิตภัณฑ์ชุดตรวจหาเชื้อทางโพรงจมูก ไปใช้ตรวจหาเชื้อโดยทางน้ำลาย ทำให้ผลที่ได้รับคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ชมรมแพทย์ชนบท ยังออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 3 ว่าจะระดมทีมปฏิบัติการ 60 ทีมในทุกภาค เข้าตรวจสอบชุดตรวจ ATK ที่รัฐประมูล ว่ามีคุณภาพทั้ง sensitivity และ specificity ดังที่กล่าวอ้างหรือไม่ ลั่นหากพบคุณภาพต่ำเกินรับได้ ต้องมีผู้รับผิดชอบ
ชมรมแพทย์ชนบท ยังกล่าวว่า คนไทยต้องได้ ATK ที่ได้ผ่านการรับรองจาก WHO เท่านั้น และกล่าวว่า ATK ของ LEPU ซึ่งไม่ผ่านการรับรองขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO เป็นผลิตภัณฑ์ที่ชมรมแพทย์ชนบทย้ำว่ารับไม่ได้ ถ้าหากได้รับการคัดเลือกเข้ามาก็ประกาศไม่ขอใช้และเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ให้ระงับการประมูลที่ถูกต้องครั้งนี้ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้มีการสั่งการจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินการ จัดหาชุดตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ Antigent test kit (ATK) ที่ผ่านการรับรองจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีจำหน่ายในประเทศไทย มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO)
โดยครั้งนี้ทางบริษัทเวิลด์ เมดิคอลฯ และ บ.ออสท์แลนด์ ผู้นำเข้าชุดตรวจ LEPU จึงได้ส่งจดหมายเปิดผนึกชี้แจง พร้อมแสดงหลักฐานระบุถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ LEPU ที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ และ นำหลักฐานอ้างอิงว่า ณ ปัจจุบัน WHO ก็ยังไม่มีการอนุมัติชุดตรวจแบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเองแก่บริษัทใดเลย จึงเป็นข้อสรุปว่าหากใช้มาตรการนี้ จะไม่สามารถมี ATK ชนิดตรวจหาเชื้อด้วยตนเองยี่ห้อใดเลยที่จะมีคุณสมบัติต้องใจชมรมแพทย์ชนบท ประชาชนทั่วประเทศที่รอคอยการใช้ ATK เพื่อตรวจคัดกรองด้วยตัวเองจากภาครัฐ ก็ต้องเผชิญและต่อสู้กับการระบาดของ โควิด 19 ด้วยตนเองกันต่อไป
ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ นี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า การเป็นผู้ถูกกล่าวหามาตลอดของ LEPU ซ้ำไปซ้ำมา เพื่อสร้างความไม่น่าเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ของ ชุดผลิตภัณฑ์ทดสอบโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen self-test Test Kits : ATK) ภายใต้ชื่อ “SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test” ซึ่งผลิตโดย Beijing Lepu Medical Technology Co., Ltd. จากสาธารณรัฐประชาชนจีน จนนำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์และเกิดข้อถกเถียงต่าง ๆ ต่อสาธารณชน สิ่งที่บริษัทผู้นำเข้าทำได้ก็เพียง นำหลักฐานออกพิสูจน์ความจริงไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ไม่สามารถจะสรุปได้ว่าเหตุการณ์นี้จะจบลงเมื่อใด อันจะนำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นที่มีต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ “LEPU”
ในการนี้ ทำให้ คุณศิริญา เทพเจริญ แห่ง บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศก้องออกแถลงการณ์ ”ขอไม่ทน” อีกต่อไป!!
นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ (มหาชน) และกรรมการบริหาร บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“ในภาวะที่ประเทศไทยเจอวิกฤติจากโควิดขนาดนี้ ประชาชนทุกคนเดือดร้อนแสนสาหัส ธุรกิจพังพินาศ การท่องเที่ยวที่เป็นเส้นเลือดรายได้หลักของประเทศดำเนินต่อไปไม่ได้ ประเทศเรา Shut down ขนาดนี้ ดิฉันในฐานะภาคเอกชนที่คลุกคลีอยู่ในวงการ อสังหาฯ การท่องเที่ยว ก็พยายามช่วยคิดว่า ทำยังไงให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้ เราต้องอยู่กับโควิดให้ได้ ในเมื่อเราไล่มันไปจากชีวิตเราไม่ได้ เราก็ต้องมาคิดว่า เราจะอยู่กับมันอย่างไรให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม เศรษฐกิจเดินหน้าได้ การท่องเที่ยวกลับมายืนได้อีกครั้ง ก็หันมามองชุดตรวจ ATK ว่านี่แหละคือ ตัวช่วยให้เศรษฐกิจเราเดินต่อไปได้ ถ้าทุกภาคส่วนได้นำมาใช้คัดกรองตรวจหาเชื้อด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ เราก็จะสามารถรู้ได้เร็ว รักษาได้เร็ว กักตัวได้เร็วไม่กลายเป็นคลัสเตอร์ต่อไป ทำให้ทุกคนจะสามารถออกไปทำงาน เด็กได้ไปโรงเรียน ห้างร้านได้เปิด โรงงานได้กลับมาทำธุรกิจต่อ ร้านเสริมสวย ร้านทำฟัน ร้านอาหาร งานอีเวนท์ต่างๆ ก็จะกลับมาฟื้นได้เร็วขึ้น นี่เป็นเหตุผลเริ่มต้นที่ทำให้ดิฉันเที่ยวไปสืบค้นข้อมูลเพื่อเอา ชุด ATK มาเพื่อจะใช้กับพนักงานตัวเอง เผอิญดิฉันมี รพ.พานาซี ที่เยอรมัน ที่จีน แล้วเห็นคนที่นั่นใช้ชุดตรวจของ LEPU และเห็นว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดี ผลิตจากโรงงานที่ใหญ่ มีมาตรฐานสูงได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมากว่า 20 ปี ก็เริ่มอยากนำมาใช้กับภาคท่องเที่ยวที่เป็นเพื่อนๆ กัน จนมาคิดว่าถ้าเราสามารถสั่งซื้อครั้งละจำนวนมาก เราจะได้ราคาที่ถูกลง
ประกอบกับเป็นจังหวะที่องค์การเภสัชฯ มีการเปิดประมูลชุดตรวจ ATK ชนิด HOME USE ทางเราจึงได้จับมือกับ บ.ออสท์แลนด์ฯ ซึ่งเป็นคนนำเข้าผลิตภัณฑ์ของ LEPU เข้าร่วมประมูลครั้งนี้ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเป็นการเข้าประมูลงานภาครัฐเป็นครั้งแรก พอได้เป็นผู้ชนะการประมูลด้วยราคาที่ต่ำสุด 70 บาท รวม (VAT7%) ได้ไม่นาน ความดีใจก็กลับกลายเป็นความงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา เราทำอะไรผิด เรานำของที่ดีมาร่วมประมูล แต่กลับมีคนเอาเรื่องที่ไม่ใช่ความจริงมาตีเรา ตีแบบต้องให้เราออกมาแก้ข่าวไปเรื่อยๆ พอเอาหลักฐานขึ้นชี้แจงข้อนี่เสร็จ ก็เริ่มมาอีกข้อ มาเรื่อยๆไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ เวลาผ่านไปจากที่กำหนดในการเซ็นต์สัญญาเพื่อส่งของ ก็เริ่มห่างออกไปเพราะเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปแบบที่ไม่ใช่ความจริง สินค้าที่ดีกลับถูกกล่าวหา ด้อยค่าว่าเป็นของไม่ดีคนกล่าวหากับ คนมาแก้ข้อกล่าวหามันเหนื่อยต่างกัน อีกทั้งด้วยความเป็นแพทย์กับนักธุรกิจ มันมีขอบเส้นแบ่งให้เห็นว่า คนจะเลือกเชื่อใครมากกว่า ทั้งๆที่มีหลักฐานก็พิสูจน์ได้ทุกประเด็น แต่คนก็เลือกที่จะมองข้าม เลือกที่จะไม่พูดในสิ่งที่ดีที่ถูกต้องที่เราเพียรพยายามชี้แจง
ดิฉันขอย้ำตรงนี้อีกครั้งว่า ผลิตภัณฑ์ ATK ของ LEPU เราเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานทั้งในระดับได้รับการรับรองจาก อย.ไทยที่ให้ มหาวิทยาลัยแพทย์รามาเป็นผู้ทดสอบ หรือถ้าคุณเชื่อในมาตรฐาน อย.ของเยอรมัน ของสวิสฯ ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ และอีกหลายประเทศระดับแถวหน้าของโลกคุณต้องเชื่อใน LEPU คิดง่ายๆถ้าของไม่ได้มาตรฐาน เขาจะเลือกไปใช้กันมากมายหลายในประเทศ แล้วการอ้างว่าต้องเลือก ATK ที่ WHO รับรองเท่านั้น ก็ขอบอกเลยว่า ไม่มี ATK แบบ Home use ยี่ห้อไหนเลยที่ WHO รับรองค่ะ แสดงว่าที่ออกมาประกาศว่าให้เลือกยี่ห้อที่มี WHO เท่านั้น งั้นก็แสดงว่าคนไทยทั้งประเทศ คงไม่มีทางได้ชุดตรวจด้วยตัวเองแล้ว”
นางศิริญา เทพเจริญ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ดิฉันขอประกาศแถลงการณ์ดังๆ ตรงนี้เลยว่า“ขอไม่ทน” อีกต่อไป บ.ณุศาศิริ ฯ และ บ.เวิลด์ เมดดิคอลฯ จะเป็นผู้นำเข้า ATK เพื่อคนไทย จำนวน 8.5 ล้านชิ้น มาจำหน่ายให้ประชาชนคนไทยทุกคน ได้มีโอกาสเข้าถึงชุดตรวจโควิดด้วยตนเอง ในราคาเพียงชุดละ 75 บาท โดยเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับราคาที่เราประมูลได้จากทางองค์การเภสัชฯ ทุกท่านที่สนใจ สามารถเข้าไป Pre Order ขั้นต่ำ 1 กล่อง ( 1 กล่อง มี 25 ชุด) ได้ตั้งแต่วันที่ 23 -31 ส.ค.นี้ (สินค้า Pre-Order รับชุดตรวจที่คลินิกและร้านขายยาที่ร่วมโครงการกับ MORHELLO ได้ภายใน 14-30 วัน นับจากรับยอดโอน) หรือติดต่อสั่งซื้อได้ที่ Line @ Morhello ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รวมถึงภาคธุรกิจใดที่สนใจใช้ ATK เพื่อใช้กับพนักงานจำนวนมาก ก็อยากเป็นกระบอกเสียงสู่รัฐบาลในเรื่องการลดหย่อนภาษีตรงนี้ให้กับองค์กรต่าง ๆ ด้วย”
ทั้งนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยขึ้นอยู่กับการส่งออกและการท่องเที่ยว หากประเทศเราสามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองได้ด้วยตัวเอง เราจะสามารถแยกคนป่วย และคนไม่ป่วยได้อย่างรวดเร็วขึ้น ภายในไม่ถึงสิ้นปีนี้ ก็จะทำให้เศรษฐกิจในประเทศเหล่านั้นเริ่มฟื้นตัวได้ ดังนั้นการประคับประคองเศรษฐกิจในปี 2564 จึงมีความสำคัญมาก ขณะเดียวกันทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต้องร่วมแรงร่วมใจกัน เราต้องนำพาประเทศให้พ้นวิกฤตินี้ไปให้เร็วที่สุด
ข่าวเด่น