เหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งปีนี้จะตรงกับวันที่ 21 กันยายน ภาพโดยรวมของเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ แม้ว่าจะไม่คึกคักเหมือนกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ประเทศไทยมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ค่อนข้างรุนแรง ส่งผลให้บรรดาผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ออกมาเปิดกิจการได้ไม่เต็มที่
แต่อย่างไรก็ดี จากมาตรการผ่อนคลายที่ภาครัฐประกาศออกมา ทำให้มีการคาดการณ์ว่า เทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ น่าจะมีความคึกคักดีกว่าปี 2563 เนื่องจากปีที่แล้วตลาดรวมขนมไหว้พระจันทร์ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ค่อนข้างมาก ส่งผลให้มูลค่าตลาดขนมไหว้พระจันทร์มีการขยายตัวลดลงสูงถึง 15% หรือมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาทเท่านั้น ถือเป็นการขยายตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี
การคาดการณ์ดังกล่าวถือว่าสอดคล้องกับสถานการณ์ของตลาด เนื่องจากขณะนี้เริ่มมีผู้ประกอบการออกมาเปิดตัวขนมไหว้พระจันทร์เข้าทำตลาดกันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม หรือผู้ประกอบการร้านขนมรายใหญ่ในตลาด ซึ่งรูปแบบการทำตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การขายในรูปแบบออนไลน์ และบริการเดลิเวอรี่
นายอรรถ ประคุณหังสิต ประธานเจ้าหน้าที่สายปฏิบัติการธุรกิจเอส แอนด์ พี บริษัท เอส แอนด์พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนการทำตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้ บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ในการจำหน่ายสินค้าใหม่ จากเดิมขนมไหว้พระจันทร์จะเน้นผลิตเพื่อการจำหน่ายในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์เท่านั้น แต่สำหรับปีนี้บริษัทผลิตเพื่อการขายเป็นประจำ เนื่องจากลูกค้าปัจจุบันมีการซื้อขนมไหว้พระจันทร์ เพื่อนำไปทานเล่นหรือเป็นของฝาก ไม่ได้ซื้อเพื่อนำไปไหว้อย่างเดียว ซึ่งหลังจากปรับกลยุทธ์ออกมาในรูปแบบดังกล่าว พบว่าลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี
ในส่วนของขนมไหว้พระจันทร์ ที่ เอสแอนด์พี ได้ผลิตเพื่อนำเข้ามาทำตลาดในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ จะมีด้วยกัน 14 รสชาติ รวม 19 ไส้ โดยไส้ใหม่ที่ได้เปิดตัวเข้ามาทำตลาดในปีนี้ คือ หมอนทองเก๋ากี้ไข่เค็มลาวา และ ไส้หมูฮ่องเต้ซอสเอ๊กซ์โอ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค และสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาดขนมไหว้พระจันทร์ ส่วนไส้ที่ขายดียังคงเป็นไส้หมอนทอง ลูกบัว และโหงวยิ้ง
นายอรรถกล่าวว่า รูปแบบการทำตลาดขนมไหว้พระจันทร์ของเอสแอนด์พีในปีนี้ ได้มีการขยายช่องทางการทำตลาดเข้าไปในส่วนของฟู้ดเดลิเวอรี่มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคหันมาสั่งสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวมากขึ้น เห็นได้จากยอดขายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่ในขณะนี้ที่มีสัดส่วนสูงถึง 20% ที่เหลืออีก 80% จะเป็นยอดขายจากหน้าร้าน ถือว่าเป็นยอดขายฟู้ดเดลิเวอรี่ที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากก่อนหน้านี้ยอดขายหน้าร้านจะอยู่ที่ประมาณ 90% ซึ่งจากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าว เอสแอนด์พี คาดว่าในปี 2564 นี้ จะมียอดขายขนมไหว้พระจันทร์ ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ใกล้เคียงกับยอดขายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ด้านร้าน Kyo Roll En (เกียวโรลเอ็น) ก็เปิดเกมต้อนรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ ด้วยการเปิดตัวเซตขนมไหว้พระจันทร์สุดพรีเมียม ด้วยการดึง “เชฟไอซ์-ศุภักษร จงศิริ” และ “เชฟเดช คิ้วคชา” มาพัฒนาขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้ โดยการชูจุดเด่นวัตถุดิบคุณภาพจากภาคใต้ของไทยและญี่ปุ่น มาพัฒนาเป็นขนมไหว้พระจันทร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด
นอกจากนี้ ยังชูจุดเด่นในด้านของ Limited Edition Collaboration Mooncake กับสุดยอดขนมไหว้พระจันทร์สูตรแฮนด์เมด ทุกชิ้นปั้นด้วยมือตามประเพณีจีนที่สืบทอดยาวนานกว่า 1,000 ปี โดยตอนนี้เปิดรับจองแล้วในราคากล่องละ 1,488 บาท ผ่านเว็บไซต์ www.kyorollen.com/mooncake
ส่วนขนมไหว้พระจันทร์สูตรซิกเนเจอร์ของร้าน Kyo Roll En ที่คาดว่าจะทำยอดขายได้ดี คือ ขนมไหว้พระจันทร์รสชาติใหม่ล่าสุด ‘KYO’ Mixed Nuts ไส้โหงวยิ้ง แบบ Made In Japan ที่ทำจากถั่วและธัญพืชญี่ปุ่น 5 ชนิด ได้แก่ ถั่วแระ ถั่วดำ ถั่วเขียว ถั่วลิสง และเกาลัด นอกจากนี้ ยังมี Custard Vanilla สูตรใหม่ ซึ่งจะวางจำหน่ายใน 2 ขนาด คือ แบบ Premium Box 8 ชิ้น ราคา 888 บาท สามารถคละได้ 4 รสชาติ รสละ 2 ชิ้น คือ Yuzu Lava, Satsuma Imo, Custard Vanilla, ‘KYO’ Mixed Nuts และกล่อง Kyoto Box 4 ชิ้น ราคา 488 บาท รสละ 1 ชิ้น โดยลูกค้าที่สั่งซื้อตั้งแต่ 20 กล่องขึ้นไป ร้าน Kyo Roll En มีบริการจัดส่งสินค้าฟรีทั่วกรุงเทพฯ
ร้านต่อมาที่ออกมาเปิดตัวขนมไหว้พระจันทร์ เพื่อชิงเค้กตลาดรวม 800 ล้านบาท คือ ร้าน ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน ด้วยการชูจุดเด่นของขนมไหว้พระจันทร์สไตล์ฮ่องกงขนานแท้ ด้วยการยึดหลักในการทำขนมไหว้พระจันทร์แบบฉบับดั้งเดิม โดย ”เชฟชาน ยิ้ว แลม” เชฟฮ่องกงชื่อดังที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการทำขนมอบสไตล์กวางตุ้ง ซึ่งในส่วนของขนมไหว้พระจันทร์ที่ร้าน ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน นำมาทำตลาดในปีนี้มีให้เลือกด้วยกัน 6 ไส้ 9 แบบ เปิดรับจองทางโทรศัพท์เท่านั้น
ในส่วนของโรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ ขอเข้าร่วมชิงส่วนแบ่งการตลาดขนมไหว้พระจันทร์ ด้วยขนมไหว้พระจันทร์สูตรต้นตำรับจับคู่กับชาเลิศรสที่แพคมาในบรรจุภัณฑ์เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด และเพื่อให้ได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น จึงได้มีการจัดโปรโมชั่นซื้อ 5 แถม 1
ด้าน โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ก็ขอเข้าร่วมชิงส่วนแบ่งการตลาดขนมไหว้พระจันทร์ ผ่านห้องอาหารจีน “พาโกด้า ไชนีส เรสเตอรองท์” ที่ได้มีการนำความทันสมัยมาผสมผสานความดั้งเดิมของประเพณีมาพัฒนาขนมไหว้พระจันทร์ด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม มีให้เลือกด้วยกัน 4 รสชาติ ประกอบด้วย ไส้เม็ดบัวและแมคคาเดเมีย ไส้หมูแผ่นปรุงรสและสารพัดถั่ว ไส้เม็ดบัวและเมล็ดแตงโมกับไข่แดง และไส้ทุเรียนจันทบุรีกับเม็ดบัวและไข่แดง
นี่แค่ต้นเดือนยังคึกคักกันขนาดนี้ คาดว่าช่วงใกล้ๆ ถึงวันไหว้พระจันทร์ โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์สุดท้าย ตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้ต้องกลับมาคึกคักกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ส่วนจะสามารถปิดยอดได้ที่มูลค่าเท่าไรนั้น คงต้องรอลุ้นกัน เพราะถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด และภายใน 14 วันของการทดลองมาตรการผ่อนคลายผ่านพ้นไปด้วยดี ก็จะมีมาตรการผ่อนคลายที่ทำให้ทุกคนหายใจคล่องขึ้นกว่านี้ และ “ขนมไหว้พระจันทร์” ก็น่าจะขายดีกว่านี้อย่างแน่นอน
ข่าวเด่น