นับตั้งแต่ระลอกแรกของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อเดือนมีนาคม 2563 โครงการ “ทุก(ข์)ภัย ไทยช่วยกัน” จึงเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของกลุ่มบุคคลในสาขาวิชาชีพต่างๆ ซึ่งมีความตั้งใจในการบรรเทาทุกข์ให้พี่น้องคนไทย บนพื้นฐานความเชื่อว่า “ทุกๆครั้งที่ประเทศชาติเกิดทุกข์ภัย คนไทยจะต้องลุกขึ้นมาช่วยกัน” เกิดเป็นภาพของการช่วยเหลือสังคมที่ประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนภาคประชาชนที่ได้ประสานพลังน้ำใจผ่านการบริจาคให้กับโครงการเพื่อนำไปจัดหาเครื่องช่วยหายใจ ตลอดจนอุปกรณ์การแพทย์ที่ยังขาดแคลนเพื่อใช้ในการฝ่าวิกฤตโควิด-19 ซึ่งยังคงมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกปัจจุบัน ที่ในขณะนี้ ได้มีอัตราผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีอัตราการเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว โครงการ “ทุก(ข์)ภัย ไทยช่วยกัน” เล็งเห็นถึงความจำเป็นของการจัดหาเครื่องช่วยหายใจ ตลอดจนอุปกรณ์การแพทย์ที่ยังขาดแคลนเพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆเพื่อระดมทุนให้กับมูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทย เพื่อจัดหาเครื่องช่วยหายใจ และอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นอื่นๆให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ ในภารกิจ“เติมน้ำใจ ต่อลมหายใจ” โดยเริ่มระดมเงินบริจาคไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
เพียงเวลาหนึ่งเดือนเศษๆ ด้วยพลังน้ำใจของผู้บริจาคทุกคน โครงการ “ทุก(ข์)ภัย ไทยช่วยกัน” สามารถดำเนินการจัดหาและส่งมอบเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นในภารกิจ“เติมน้ำใจ ต่อลมหายใจ” นี้แล้วถึง 2 รอบ โดยได้ทยอยส่งมอบไปยังโรงพยาบาลต่างๆกว่า 20 แห่งทั่วประเทศเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
สำหรับครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ของการจัดหาและส่งมอบความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องคนไทยในภาวะวิกฤตโควิด-19 ซึ่งหากรวมส่งมอบในครั้งนี้ โครงการ “ทุก(ข์)ภัย ไทยช่วยกัน” สามารถจัดหาและส่งมอบเครื่องออกซิเจน ไฮ โฟลว์ ไปแล้วจำนวน 27 เครื่อง อุปกรณ์ปกป้องทางเดินหายใจแบบจ่ายอากาศบริสุทธิ์(หรือ PAPR) 47 เครื่อง ชุด PPE กว่า 11,000 ชุด หน้ากากอนามัยกว่า 58,000 ชิ้น ตลอดจนอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นอื่นๆ ให้กับโรงพยาบาลต่างๆที่ขาดแคลนกว่า 100 โรงพยาบาลทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่าการบริจาคตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้นถึง 13,674,800 บาท
คุณโกมล เมฆวัฒนา ประธานโครงการ “ทุก(ข์)ภัย ไทยช่วยกัน” กล่าวว่า “ภารกิจ“เติมน้ำใจ ต่อลมหายใจ” ของโครงการ “ทุก(ข์)ภัย ไทยช่วยกัน” ได้รับการอนุเคราะห์เป็นอย่างดีจากทั้งภาครัฐ ภาครัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่เป็นตัวกลางประสานโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ กองทัพอากาศ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ทางอากาศ เพื่อให้ทันต่อการใช้งานของโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ห่างไกลได้ในเวลาอันรวดเร็ว ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน ที่ร่วมสมทบทุนบริจาคให้กับโครงการ นอกจากนั้น เรายังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากภาคเอกชน เช่น ทรูมันนี่ วอลเล็ท ซึ่งไม่เพียงแต่จะอำนวยความสะดวกด้านช่องทางการบริจาค แต่ยังมอบเงินบริจาคให้กับโครงการอีก 1 ล้านบาท หรือบริษัท เจียไต๋ จำกัด ที่ได้ช่วยเหลือโครงการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งเจียไต๋ได้สมทบทุนให้กับภารกิจนี้อีก 1 ล้านบาท อีกทั้งยังส่งมอบ ผัก ผลไม้สด ปลอดภัย ให้บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมแจกเมล็ดพันธุ์ผักคุณภาพ ให้คนไทยปลูกผักอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ตลอดช่วงวิกฤตที่ผ่านมาด้วย
ภารกิจครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ไม่ใช่เพียงในแง่ของการระดมเงินบริจาคเท่านั้น หากแต่เรายังได้รับความช่วยเหลือในรูปแบบอื่น อาทิเช่น สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย ที่ช่วยเราขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ และบริษัท จีเทค จำกัด ที่ช่วยเหลือสื่อสิ่งพิมพ์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพื่อให้มั่นใจว่าทุกพลังน้ำใจของทุกท่านจะได้นำไปใช้จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อต่อลมหายใจให้กับทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ให้สามารถฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างแท้จริง”
นายแพทย์ประจักษวิช เล็บนาคประธาน มูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ภารกิจ“เติมน้ำใจ ต่อลมหายใจ” ของโครงการ “ทุก(ข์)ภัย ไทยช่วยกัน” จึงยังไม่จบสิ้น ยังมีผู้ป่วยอีกนับพัน บุคลากรทางการแพทย์อีกนับร้อยชีวิตที่ยังรอคอยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นเพื่อช่วยต่อลมหายใจให้พวกเขาสามารถฝ่าวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ การระดมทุนของโครงการ “ทุก(ข์)ภัย ไทยช่วยกัน” ในครั้งนี้จะช่วยให้มูลนิธิสามารถนำไปจัดหาเครื่องมือการแพทย์ที่จำเป็นและยังขาดแคลน เพื่อช่วยให้เราทุกคนสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัยต่อไป”
ผู้ที่สนใจร่วมบริจาคเงินสมทบทุนการจัดหาเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 สำหรับโรงพยาบาลทั่วประเทศ สามารถร่วมบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2564 โดยสามารถบริจาคได้สองช่องทางคือ
1. บริจาคผ่าน ทรูมันนี่ วอลเล็ท โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ เพียงสแกน QR Code ในภาพด้านบน หรือเข้าไปแอปพลิเคชันทรูมันนี่ แล้วเลือกเมนู บริจาค -> กดเลือกรายชื่อ “มูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทย”
2.บริจาคผ่านบัญชีออมทรัพย์ มูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เลขที่ 020198528890
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ “ทุก(ข์)ภัย ไทยช่วยกัน” เพิ่มเติม กรุณาติดต่อผ่านทาง Line OA: ทุกข์ภัยไทยช่วยกัน https://lin.ee/WLd3xpj หรือโทร 084-439-0105 และ 090-236-6515
ข่าวเด่น