วงการสินทรัพย์ดิจิทัลไทยช่วงปลายปีกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลัง เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. เปิดขาย “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ (SiriHub Investment Token)” สำหรับนักลงทุนทุกประเภทเมื่อ 21 กันยายนที่ผ่านมา ผ่านทางแอปพลิเคชัน XSpring และมีบริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่าย นอกจากนี้ยังมีบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำอีก 4 แห่ง ได้แก่ บล.กรุงไทย ซีมิโก้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส บล.เอเซีย พลัส และบล.เคทีบีเอสที เป็นผู้ช่วยในการจัดจำหน่ายโทเคนดิจิทัลอีกทอดหนึ่ง
หลังเปิดจองได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก มียอดจองซื้อในวันแรกอย่างท่วมท้น ตอกย้ำความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อเอ็กซ์สปริง ในฐานะผู้บุกเบิกการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งสำคัญของไทย ทำให้ “สิริฮับ โทเคน” ซึ่งออกระดมทุน 2,400 ล้านบาท เป็น ขึ้นแท่นเป็น ICO ป้ายแดงขวัญใจมหาชนครั้งประวัติศาสตร์ไปเรียบร้อย ทั้งนี้ โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ มีให้เลือกลงทุน 2 กลุ่ม คือ สิริฮับ A (SiriHubA) จำนวน 1,600 ล้านบาท และสิริฮับ B (SiriHubB) จำนวน 800 ล้านบาท ราคาจองซื้อ 10 บาท ต่อ 1 โทเคน เปิดให้ผู้ลงทุนทุกกลุ่มลงทุนด้วย มูลค่าการจองซื้อขั้นต่ำเพียง 10 บาท และมีจำนวนจำกัดเพียง 240 ล้านโทเคนเท่านั้น
ม.ล. ทองมกุฎ ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวถึง สิริฮับ โทเคนว่า “โทเคนดิจิทัลในต่างประเทศถือเป็นตลาดการลงทุนที่ใหญ่มากและมีกระแสที่แรงต่อเนื่องมานาน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว โทเคนดิจิทัลสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายมาก อย่างสิริฮับ A ก็คล้ายกับการซื้อพันธบัตรหรือตราสารหนี้ แต่มีการเพิ่มฟีเจอร์บางอย่างเข้ามาให้ดีขึ้น ส่วนสิริฮับ B ก็มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ผูกกับรายละเอียดของ Asset ด้วย ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับนักลงทุน จุดสำคัญของสิริฮับ โทเคนคือโครงการอสังหาฯ ที่ใช้อ้างอิงรายรับ ด้วยสำนักงานสิริ แคมปัส เป็นโครงการที่มีศักยภาพสูงมาก โดยเฉพาะในเรื่องทำเลที่ตั้ง คาดว่าในอนาคตราคาของที่ดินจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากปัยจัยพื้นฐานในโครงการ T77 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสิริ แคมปัส มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็น คอมมูนิตี้เพื่อการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ เช่น คอนโด ไลสฟ์สไตล์มอลล์ โรงเรียน ตลอดจนพื้นที่กิจกรรมไลฟ์สไตล์อื่น ๆ ที่ค่อนข้างครบ ตอบโจทย์การเติบโตในระยะยาว ยิ่งเป็นจุดตอกย้ำค่าเช่าโครงการที่จะได้จากแสนสิริในระยะยาว เป็นส่วนช่วยการันตีรายรับของโครงการที่จะกลายมาเป็นส่วนแบ่งรายได้ให้ผู้ถือโทเคนทั้งสองกลุ่ม”
นายช่วงชัย นะวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS ให้ความเห็นว่า “มีความสนใจจากนักลงทุนทุกระดับในโทเคนมากพอสมควร นักลงทุนสอบถามเข้ามาตลอด ด้วยความเป็น ICO ตัวแรกของไทย ที่ ก.ล.ต. รับรอง และยังอิงกับบริษัทที่มั่นคงอย่างแสนสิริ สำหรับโทเคนที่เสนอขายทั้ง 2 กลุ่ม คิดว่ากลุ่มเป้าหมายคนซื้อ สิริฮับ A จะเป็นนักลงทุนตราสารหนี้ ในขณะที่ กลุ่มสิริฮับ B จะได้รับความสนใจจากกลุ่มเก็งกำไร เมื่อประเมินจากศักยภาพของโครงการมีโอกาสอัพไซด์ หากมองในอนาคตข้างหน้า สิริฮับ โทเคน เหมือนการปูทางสู่การลงทุนใหม่ ๆ ในไทย ถ้าตัวนี้มาดีโทเคนตัวต่อไปที่ตามมาก็จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนได้มากขึ้น ประกอบกับระบบการซื้อขายในตลาดรอง คือ อีอาร์เอ็กซ์ ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายโทเคนโดยเฉพาะ หากดำเนินการซื้อขายได้ด้วยดี ก็จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้มากขึ้น”
นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า “แม้การลงทุนกับโทเคนดิจิทัลจะดูเหมือนเป็นของใหม่สำหรับนักลงทุนทั่วไป แต่ถ้าศึกษาดูจะรู้ว่าโทเคนดิจิทัลในต่างประเทศก็เป็นที่พูดถึงมาได้สักพักแล้ว และมีความเห็นว่าเป็นการลงทุนที่ง่ายและไม่ซับซ้อน อาจจะไม่ต่างจากการลงทุนในหุ้นกู้ หรือรีท แต่สามารถทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มบล็อกเชน ที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง จึงสามารถซื้อขายได้จากสมาร์ทโฟน ไม่ต่างจากการเปิดพอร์ตลงทุนซื้อขายหุ้นออนไลน์ และสิริฮับ โทเคน เปิดให้นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย ก็ถือเป็นโอกาสที่จะทำให้นักลงทุนที่ยังกังวลเรื่องการลงทุนในโทเคนดิจิทัล หรือสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ตัดสินใจเป็นทางเลือกลงทุน เพื่อช่วยสร้างผลตอบแทน และกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งอีกด้วย สำหรับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในสิริฮับ โทเคน มองว่าส่วนใหญ่จะถือยาวเพื่อรอรับส่วนแบ่งรายได้ที่จะจ่ายทุกๆ 3 เดือน และรับรายได้ก่อนจบโครงการเมื่อประมูลขายสิริ แคมปัสได้สำเร็จ แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเปิดทำการซื้อขายในตลาดรอง อาจจะมีการขยับของราคา หากนักลงทุนได้กำไรที่พอใจ อาจจะมีบางส่วนขายทำกำไรในตลาดรองเช่นกัน”
ในขณะที่ นายณัฐพงศ์ ณ ระนอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST ชี้ถึงศักยภาพของโครงการสิริ แคมปัส และอาณาจักร T77 ว่า “สิริ แคมปัส ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เพราะย่านสุขุมวิท 77 ถือเป็น New CBD ที่มีศักยภาพและผู้ประเมินทรัพย์สินยังประเมินว่าโครงการนี้ในอีก 4 ปีข้างหน้า จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท เรียกได้ว่าอสังหาฯ ที่นำมาอ้างอิงสิริฮับ โทเคนมีความมั่นคงสูง นอกจากตัวอสังหาฯ แล้ว ผู้เช่าโครงการซึ่งก็คือแสนสิริยังเป็นผู้เช่าที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ BBB+ เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้โครงการมีรายรับต่อเนื่อง สิริฮับ โทเคนจึงเป็นการลงทุนรูปแบบใหม่ที่ทุกคนเข้าถึงได้ สำหรับนักลงทุนที่สนใจอยากเริ่มต้นลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ก็สามารถเริ่มเข้ามาลงทุนกับโทเคนตัวนี้ได้อย่างมั่นใจ เนื่องจากมีรูปแบบและกลไกใกล้เคียงกับการลงทุนดั้งเดิม มีการจ่ายผลตอบแทนสม่ำเสมอจากกระแสรายรับของโครงการ และมีสินทรัพย์อ้างอิง ทำให้นักลงทุนมั่นใจได้”
ด้านนายปิ่นปราชญ์ จักกะพาก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเทรดดิจิทัลโทเคนที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งจะเป็นตลาดรองสำหรับซื้อ-ขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “เนื่องจากดิจิทัลโทเคนเป็นรูปแบบการลงทุนที่มีการอ้างอิงกับสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและสามารถจับต้องได้ ทําให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจของผู้ลงทุนทั่วไปที่เคยลงทุนในหลักทรัพย์อื่นอยู่แล้ว รวมถึงผู้ลงทุนรายใหม่ อีกทั้งยังมีกลไกการรักษาความปลอดภัยและการคุ้มครองผู้ลงทุนในทุกโทเคนที่มีการซื้อขายผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน และยังสามารถระบุถึงผู้ถือครองได้ ซึ่งเป็นระบบที่อีอาร์เอ็กซ์ออกแบบมาโดยเฉพาะให้เหมาะสมกับการซื้อ-ขายโทเคนดิจิทัล ซึ่งจะแตกต่างจากการเทรดบิตคอยด์ที่ไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ถือครองได้ คนไหนที่มีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์แล้วมีบิตคอยน์อยู่ในกระเป๋าก็ถือว่าเป็นเจ้าของ แต่สินทรัพย์ที่เทรดในกระดานของอีอาร์เอ็กซ์จะเหมือนหุ้นมากกว่า กล่าวคือ หุ้นมีนายทะเบียน โทเคนที่จะเทรดในกระดานของอีอาร์เอ็กซ์ ส่วนใหญ่จะมีนายทะเบียนด้วย โดยเราจะมีการปิดสมุดบัญชีเพื่อสรุปยอดทุกวัน สำหรับกำหนดการซื้อ-ขายสิริฮับ คาดว่าจะเริ่มให้เทรดวันแรกบนอีอาร์เอ็กซ์ได้ในวันที่ 12 ตุลาคมนี้”
ด้วยบริการระบบเสนอขายและการบริหารจัดการโทเคนดิจิทัลตลอดอายุโครงการ รวมถึงศักยภาพของทรัพย์สินโครงการและกระแสรายรับที่นำมาอ้างอิง มีการเติบโต มั่นคง ได้รับผลตอบแทนต่อเนื่อง ในรูปแบบการลงทุนที่ง่าย สะดวกและปลอดภัย เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เชื่อมั่นว่า “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ (SiriHub Investment Token)” จะเป็นมาตรฐานใหม่ของการลงทุนที่ทุกคนเข้าถึงได้ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นแค่ 10 บาท มีผลตอบแทนมั่นคง ตอบโจทย์นักลงทุนทุกระดับ จากดีมานด์ของนักลงทุนและผู้ระดมทุนเอง คาดว่าโทเคนดิจิทัลมีแนวโน้มที่จะกลายเป็น Next Future Trend of Investment ในตลาดทุนไทยในอนาคตอันใกล้
ข่าวเด่น