กรอบราคาทองสัปดาห์นี้ 1,770-1,820 ดอลล์
ขาดปัจจัยใหม่หนุนตลาดมีแรงขายสถาบัน
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแข็งแกร่ง ราวๆ จากบริเวณ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็น 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1.41% สาเหตุมากจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐ (bond yield) เริ่มตึงตัวบริเวณแนวต้านที่ 1.70% เมื่อไม่สามารถทะลุแนวต้านดังกล่าวได้จึงย่อตัวลงและเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ
ขณะที่ภาพรวมทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา sideway up เนื่องจากประกาศตัวเลขเศรษฐกิจมีทั้งปัจจัยบวกอย่าง GDP ไตรมาส 3 ของสหรัฐ เริ่มกลับมาฟุบตัวเลขอีกครั้งเหลือเพียง 2.0% ขณะที่ไตรมาสก่อนหน้าสูงถึง 6.7% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้า ที่เริ่มระบาดหนักตั้งแต่ปลายเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา
สอดคล้องกับเงินเฟ้อที่ยังมีแนวโน้มเร่งตัวสูง ทำให้นักลงทุนบางส่วนเข้าถือครองทองคำมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงของเงินเฟ้อเมื่อดอลลาร์อ่อนค่า ส่วนปัจจัยลบอ่อนอย่าง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังสูงกว่าตลาดคาดการณ์เล็กน้อย มุมมองตลาดให้น้ำหนักฝั่งGDPที่ฟุบและแนวโน้มเงินเฟ้อที่เร่งตัวเป็นให้ทองคำปรับตัวขึ้น
ในสัปดาห์นี้ต้องจับตาประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ภาคแรงงาน เช่น การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) การจ้างงานภาคเอกชน และอัตราการว่างงาน ซึ่งเป็นตัวเลขสำคัญที่เฟดใช้พิจารณาประกอบการใช้นโยบายการเงิน
และที่พลาดไม่ได้เลยคือ การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐ หรือ FOMC ที่จะเปิดขึ้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน เวลา 1.00 ตามเวลาประเทศไทย โดยตลาดคาดว่าเฟดจะประกาศลดวงเงิน QE ในการประชุมครั้งนี้ โดยแนะนำให้หาจังหวะ Long เมื่อราคาทองคำย่อตัวลงและไม่หลุด 1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ฝ่ายวิจัยบล.โกเบล็ก ประเมินกรอบทองคำในสัปดาห์นี้ 1,770-1,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อวันวันศุกร์ ที่ผ่านมา (29ต.ค.) ดัชนีปรับตัวลงเล็กน้อย เป็นภาพของดัชนีที่ซึมลงทั้งสัปดาห์ โดยมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคาร ในช่วงท้ายตลาด หลังจากที่ศบค. ลดพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 7 จังหวัด พร้อมทั้งเพิ่มพื้นที่สีฟ้า ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 4 จังหวัด ได้แก่ กทม. กระบี่ พังงา และ ภูเก็ต ไม่มีเคอร์ฟิว และให้สามารถนั่งรับประทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ ทำให้หุ้นธนาคารที่อิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ปรับตัวบวก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,623.43 จุด -0.88 จุด -0.05% มูลค่าการซื้อขาย 66,594 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด และยังมีแรงขายจากนักลงทุนสถาบันต่อเนื่อง ประกอบกับนักลงทุนยังติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมามองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1600-1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ได้แก่ หุ้น VGI ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 6.65 บาท ดีดตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ พร้อมปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นชัดเจน และ Slow Sto. มีค่าสัญญาณบวก หากผ่าน 7.00 บาท ลุ้นทดสอบต้านที่ 7.50 บาท มีแนวรับที่ 6.45 บาท มีจุด cut loss ที่ 6.40 บาท
และหุ้น CRC ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 34.75 บาท ทำแท่งเทียนเขียว โดยมี Volume เข้าวันแรก และ Slow Sto. เตรียมพลิกตัวส่งสัญญาณซื้อ คาดราคามี Momentum ขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านที่ 36.50-38.00 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 33.50 บาท และมีจุด cut loss อยู่ที่ 33.00 บาท
ข่าวเด่น