เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ยังคงมีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรงสำหรับตลาดน้ำดื่มบรรจุขวด (PET+glass) เพราะนอกจากจะมีผู้เล่นรายใหญ่ อย่าง แบรนด์สิงห์ ,คริสตัล,เนสท์เล่ ,น้ำทิพย์ และช้าง แข่งกันทำตลาด เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาด จากมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาทแล้ว ปัจจุบันยังมีแบรนด์เล็กๆ อย่างเฮ้าส์แบรนด์ของห้างค้าปลีก แบรนด์โลคอล และแบรนด์ของร้านอาหารต่างๆ เข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาดอีกด้วย
จากการแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ต้องออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด พร้อมกับเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้เพิ่มขึ้น เห็นได้จากการออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยการมอบโชคให้กับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ การทำโปรโมชั่นลดราคาสินค้า และการเปิดตัวแพ็คเกจใหม่ เพื่อดึงความสนใจของลูกค้า ซึ่งการแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าว ประกอบกับผู้บริโภคหันมาซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดมากขึ้น ทำให้ตลาดรวมน้ำดื่มยังมีอัตราการเติบโตในแดนบวกไม่ตกเหมือนกับเครื่องดื่มอื่นๆ โดยปัจจุบันตลาดรวมน้ำดื่มบรรจุขวด (PET+glass) มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 32,000 ล้านบาท ขณะที่เชิงปริมาณมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านลิตร
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลของวิจัยกรุงศรี ที่ระบุว่า การแข่งขันของตลาดน้ำดื่มมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง เพราะนอกจากจะมีผู้ผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดรายใหญ่อย่างบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกด (แบรนด์ สิงห์) บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) (แบรนด์ คริสตัล) บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด (แบรนด์ เนสท์เล่) และบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด (แบรนด์ น้ำทิพย์) ผลิตสินค้าเข้าทำตลาดผ่านช่องทางร้านค้าปลีก โมเดิร์นเทรด ร้านอาหาร การขายผ่านระบบออนไลน์ และขายตรง (จัดส่งตามบ้านและอาคารสำนักงาน) แล้ว ปัจจุบันยังมีแบรนด์โลคอลผลิตสินค้าเข้าทำตลาดตามจังหวัดต่างๆ อีกไม่น้อยกว่า 100 แบรนด์ ซึ่งส่วนใหญ่จำหน่ายในร้านอาหารทั่วไป และร้านอาหารข้างทาง (Street Food)
ความคึกคักที่เกิดขึ้นดังกล่าว วิจัยกรุงศรีคาดว่าความต้องการบริโภคน้ำดื่มบรรจุขวดจะยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เนื่องจากผู้บริโภคคำนึงถึงความสะอาดและความปลอดภัยของน้ำดื่มมากขึ้น ซึ่งน้ำดื่มบรรจุขวดที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน อาทิ ISO 9001, HACCP ทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการบริโภค
นายภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้บริหารน้ำดื่มสิงห์ กล่าวว่า ตั้งแต่เผชิญหน้ากับโควิดมาประมาณ 2 ปี ทำให้บริษัทได้รับโจทย์ใหม่ในการทำตลาดทุกวัน เพราะตลาดมีความผันผวนค่อนข้างสูง เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างมาเป็นตัวกำหนดกลไกตลาดไม่ว่าจะเป็นความต้องการของผู้บริโภค สภาพเศรษฐกิจ หรือนโยบายของทางภาครัฐที่บางช่วงมีการล็อคดาวน์ ทำให้ผู้บริโภคเกิดกำลังการซื้อแบบทันที เพราะคนต้องการจะกักตุนสินค้า
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้แบรนด์สิงห์ ต้องตรียมความพร้อมในด้านของสินค้า เพื่อให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกช่องทางการขาย ไม่ว่าจะเป็นโมเดิร์นเทรด ออนไลน์เดลิเวอรี่ และบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน ซึ่งนอกจากจะสั่งน้ำดื่มสิงห์แล้ว ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าอื่นๆ ของเครือได้ผ่านช่องทาง Singha Online Shop ด้วยบริการจัดส่งฟรี! เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้าขั้นต่ำ 500 บาท
นอกจากนี้ ยังมีบริการรูปแบบระบบสมาชิกที่ซื้อแบบเป็นแพ็คเกจ เช่น น้ำถังซื้อคูปอง 20 ใบ มีการมัดจำถัง แล้วจัดส่งน้ำให้ทุกสัปดาห์ตามจำนวนคูปอง (subscription) ควบคู่กับการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายผ่านช่องทางเหล่านี้ให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการทดลองใช้ และยังเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคด้วย e-Commerce platforms อย่าง Shopee, Lazada เพิ่มเติม
ด้าน แบรนด์คริสตัล ก็มีการตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดน้ำดื่มอย่างยั่งยืน เพื่อต้อนรับการเปิดประเทศครั้งใหม่ ด้วยการเดินหน้าทำตลาดภายใต้แนวคิดน้ำดื่มคุณภาพต้องเข้าถึงคนไทยทุกคน ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่และฉลากบรรจุภัณฑ์ลิมิเต็ดอิดิชั่นดีไซน์ ซีรีส์ที่ 2 เพื่อกระจายความสดชื่นในฐานะแบรนด์น้ำดื่มแรกที่ได้รับการรับรองจาก NSF International และอีกหลายรางวัลที่ได้รับรองมาตรฐานการผลิตและคุณภาพสิ่งแวดล้อมจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ
พร้อมกันนี้ ยังมีการต่อยอดภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ ด้วยการเปิดตัวฉลากบรรจุภัณฑ์ใหม่จำนวน 4 ดีไซน์ ซึ่งออกแบบโดย “ยุรี เกนสาคู” ศิลปินร่วมสมัยชั้นนำของประเทศ เพื่อเสิร์ฟความสดชื่นทั่วไทยผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุด “สดชื่นทั่วทิศ คุณภาพทั่วไทย” พร้อมดึง “นาย ณภัทร” และแก๊งเพื่อนใหม่-คาแรกเตอร์ที่อยู่ตามภูมิภาคต่างๆ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับฉลากบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ
นางปรางณี ไชยพิเดช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังผ่านช่วงไตรมาส 3 มา บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นป็นอย่างดี ส่งผลให้คริสตัลมียอดขายสะสมถึงเดือนก.ย. ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 17.7% โดยเฉพาะในช่องทางเทรดิชั่นนัลเทรด ที่คริสตัลสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุม เนื่องจากช่องทางการขายอื่นๆ มีข้อจำกัดในการให้บริการ จึงทำให้คริสตัลมีส่วนแบ่งการตลาดในช่องทางดังกล่าวที่ 23%
ขณะเดียวกัน แบรนด์เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ก็ออกมาเปิดตัวนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ภายใต้ชื่อ “เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ บัดดี้” ด้วยการออกแบบฉลากบรรจุภัณฑ์เป็นลายสัตว์ป่าสะวันนาสุดน่ารัก จำนวน 3 ลาย คือ สิงโตสุดหล่อ ม้าลายตัวป่วน และเมียร์แคทแสนซน พร้อมสโลแกน “เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ขวดเดียวก็เที่ยวสะวันนาได้” โดย น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ บัดดี้ ทั้ง 3 ลายจะมาพร้อมฟังก์ชั่น AR ซึ่งสามารถแสดงรูปสัตว์สามมิติ ให้ออกมาโลดแล่นบนจอสมาร์ทโฟนได้ เพียงแค่สแกน QR Code ข้างขวด
นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายเซลฟี่กับสัตว์สามมิติตัวโปรดได้อีกด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงประสบการณ์ความสนุกสนานจากบรรจุภัณฑ์ “น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ บัดดี้” ซึ่งในส่วนของบรรจุภัณฑ์ใหม่ดังกล่าว แบรนด์เนสท์เล่ได้วางจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ
จากการออกมาทำกิจกรรมการตลาดดังกล่าวของน้ำดื่มแบรนด์ยักษ์ใหญ่ คาดว่าจะช่วยให้ตลาดน้ำดื่มในช่วงปลายปีนี้มีความคึกคักมากขึ้นอย่างแน่นอน
ข่าวเด่น