การตลาด
Scoop : ตลาด ''ฟังก์ชันนอลดริ้งค์'' คึก ''ค่ายยักษ์'' เปิดศึก คลอดสินค้าใหม่ หวังชิงแชร์ 9 พันล้าน


ยังคงมีความคึกคักอย่างต่อเนื่องสำหรับตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหรือฟังก์ชันนอลดริ้งค์ เนื่องจากผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น ซึ่งจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการในตลาดเครื่องดื่มเริ่มเห็นโอกาสในธุรกิจเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด  เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภค
 

อย่างไรก็ดี แม้ว่าตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น แต่หากนำมูลค่าตลาดรวมของปี 2564 มาเทียบกับปี 2563 ที่ผ่านมา ถือว่ายังมีอัตราการเติบโตติดลบที่ประมาณ 5%  หรือมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 8,600 ล้านบาท ลดลงจากปี 2563 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ  9,100 ล้านบาท ซึ่งจากแนวโน้มที่เริ่มดีขึ้นดังกล่าว ทำให้มีการคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในปี 2565 น่าจะมีอัตราการเติบโตมากกว่าปี 2564 ที่ประมาณ 9% หรือมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 9,330 ล้านบาท
 

นางประไพภักตร์ ไวเกิล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโกลเบิล (F&B) กลุ่มธุรกิจทีซีพี (TCP) กล่าวว่า บริษัทจับมือร่วมกับดีเอชซี(DHC) แบรนด์วิตามินอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ “ไฮ่! X DHC’” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มวิตามินซี 200% เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคที่รักสุขภาพ ภายหลังพบคนไทยเกือบ 50% ต้องการเครื่องดื่มที่สร้างภูมิคุ้นกันให้กับตัวเอง  โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 18-35 ปี  ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเครื่องดื่มดังกล่าว

ทั้งนี้ การที่กลุ่มทีซีพีเลือกที่จะรวมพลังกับดีเอชซี เพื่อบุกตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในประเทศไทยครั้งนี้ เพราะดีเอชซีมีความแข็งแกร่งในด้านของการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยเฉพาะในกลุ่มวิตามิน เห็นได้จากความสำเร็จในด้านของยอดขายที่ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยยอดขายกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์สูง และเพื่อให้การเปิดตัวแบรนด์ “ไฮ่! X DHC” ประสบความสำเร็จเหมือนกับประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดกลุ่มทีซีพีได้ใช้งบ 200 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดแบบ 360 องศา ทั้งออฟไลน์และ ออนไลน์ เช่น การแจกสินค้าตัวอย่าง 5 แสนชิ้น การตกแต่งร้านค้าจำนวน 80,000 แห่งทั่วประเทศ  และการดึง “อั้ม พัชราภา” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้า เพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์สินค้าและเจาะกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด
 

นางประไพภักตร์ กล่าวอีกว่า ตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งค์ในหมวดวิตามินซี มีมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท มีผู้เล่นประมาณ 10 ราย ซึ่งหลังจากบริษัทได้นำแบรนด์ “ไฮ่! X DHC” เข้ามาทำตลาดได้ประมาณ 1 ปี ปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดติด 1 ใน 5 ของเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งค์  ซึ่งหลังจากที่บริษัทได้ผนึกกำลังกับดีเอชซี บริษัทมั่นใจว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดขยับมาติด 1 ใน 3 ได้ภายในปี 2565
 

ขณะที่ “เซ็ปเป้” หรือ SAPPE ก็ส่งผลิตภัณฑ์ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ “บิวติ คอลลา-ซี” (Beauti Colla-C) ผิวกระชับ สว่างใส เสริมภูมิ ด้วยวิตามินซีสูง 200% และมีคอลลาเจนสูงถึง 2,000 มก. เสริมพอร์ตผลิตภัณฑ์กลุ่มหวานน้อย สร้างเป็น Category ใหม่ในตลาด “น้ำดื่มวิตามินพลัส" ที่มีส่วนผสมระหว่าง Functional drink category และ Water plus category

น.ส.ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE  กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มน้ำวิตามิน (Water plus) ที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงน้ำเปล่า แต่ให้ความสดชื่นที่มากกว่าและดีต่อสุขภาพ หรือที่เรียกว่า “ใสๆ ไม่ไร้ กลิ่นรส” เพราะการลดน้ำตาลในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม หรือการใช้ตัวเลือกอื่นๆ สำหรับทดแทนความหวานจะช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพ ทำให้เครืองดื่มเพื่อสุขภาพเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่กลุ่มผู้บริโภคยกให้เป็นอันดับ 1 เพราะนอกจากจะมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงในเรื่องของความสวยแล้วยังได้สุขภาพดีอีกด้วย
             
เพื่อให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ล่าสุด SAPPE ได้เปิดตัวเครื่องดื่มเซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ สูตรใหม่ คือ “บิวติ คอลลา-ซี” (Beauti Colla-C) เพิ่มเติมอีก 1 สูตร ในซีรีส์สูตร “หวานน้อย” (Less Sweet) ด้วยการชูจุดเด่นในด้านของส่วนผสมของคอลลาเจน 2,000 มก. และมีวิตามินซี 200% ช่วยให้ผิวกระชับ กระจ่างใส เสริมภูมิ มีแคลอรี่ต่ำเพียง 10 กิโลแคลอรี่ (kcal) น้ำตาล 0 ไขมัน 0 ช่วยดูแลทั้งเรื่องสุขภาพและความสวยงามได้อย่างครอบคลุม ช่วยให้ทุกคน ดูดีได้ สุขภาพดีด้วย...ไม่ต้องเลือก  ซึ่งจากแผนการดำเนินงานดังกล่าว SAPPE ได้วางเป้าหมายยอดขายสินค้าดังกล่าวในปีแรกไว้ที่ 100 ล้านบาท เนื่องจากมีการวางจำหน่ายสินค้าหลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นร้านเซเว่นอีเลฟเว่น  หรือการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง  Line: @sappeonline และ Shopee: Sappe Official Store หรือติดต่อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Facebook: Sappe Beauti Drink
 
 
ด้าน JKN  หลังดึง “นายณัฐพงษ์  วิทย์วรพงศ์” เข้ามาร่วมทัพ เพื่อลุยธุรกิจ JKN MNB  ลุยตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ล่าสุดได้ออกมาประกาศลงทุนเครื่องสกัดสาร CBD  เสริมพอร์ตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีสารสกัดจากกัญชง เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพภายใต้ Own Brand

นายณัฐพงษ์ วิทย์วรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น เอ็มเอ็น บี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่ม JKN กล่าวว่า หลังจากที่ JKN ได้เข้ามาถือหุ้นเพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และทำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านการทำตลาดของ JKN  มาช่วยในการสร้างแบรนด์สินค้าผ่านกลยุทธ์ “ซูเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง” และช่องทางออนไลน์  รวมถึงการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านเครือข่ายร้านค้าทั้งกลุ่มห้างค้าปลีกขนาดใหญ่อย่าง Lotus’s, Big C, Tops และช่องทางร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่มีมากกว่า 14,000 สาขาครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ

นอกจากจะขยายช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายแล้ว JKN ยังได้มีลงทุนติดตั้งเครื่องจักรสำหรับบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพขนาด 50 มิลลิลิตร เพื่อให้มีกำลังการผลิตเฉลี่ย 100,000 ขวดต่อวัน รองรับแผนธุรกิจพัฒนาสินค้าเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ทั้งในส่วนของแบรนด์ตัวเอง รับจ้างผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของลูกค้า หรือ OEM  ซึ่งหลังจากมีการปรับแผนดำเนินธุรกิจดังกล่าว  JKN มั่นใจว่าจะมีรายได้เติบโตตรงตามเป้าหมายที่วางไว้

LastUpdate 20/11/2564 19:47:56 โดย : Admin
06-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 6, 2024, 2:42 pm