เอดีเค อีโมชั่น แบงค็อก ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท อาซาตซู (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวภาพยนตร์แอนิเมชั่นแนวสืบสวนชื่อดัง “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เดอะ มูฟวี่ 24 ตอน กระสุนสีเพลิง” (Detective Conan The Movie 24 : The Scarlet Bullet) อย่างเป็นทางการ ในฐานะบริษัทฯ ผู้ถือครองลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ชุดนี้เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมเอาใจเหล่าโคนันแฟนคลับด้วยสินค้าลิขสิทธิ์ ลิมิเต็ดอิดิชั่นให้เลือกสะสมมากมาย
สำหรับยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เดอะ มูฟวี่ ถือเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความสนใจจากแฟน ๆ อย่างมากในทุกภาค โดยเฉพาะในภาคปัจจุบันที่เราได้รับลิขสิทธิ์นี้ แม้จะต้องเลื่อนกำหนดการฉายทั้งในประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยออกไปยาวนานเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 แต่ยังคงมีกระแสการติดตามและเรียกร้องจากแฟน ๆ ภาพยนตร์ในเพจแฟนคลับที่เฝ้ารอกำหนดฉายอย่างเป็นทางการ และเพื่อให้การกลับมาพบกันครั้งล่าสุดของยอดนักสืบจิ๋วโคนันมีความครบเครื่องสมการรอคอย บริษัทฯ ได้ คัดสรรทีมพากย์เสียงภาษาไทยรับเชิญ นำโดย “JZB Studio” และ “มินตัน ดิ๊งด่อง” ซึ่งเป็น Content Creator YouTube Channel ชื่อดังของไทยที่มียอดผู้ติดตามรวมกันมากกว่า 5 ล้านคน มาร่วมสร้างสีสันความบันเทิงให้เต็มอรรถรส สอดคล้องกับคาแรคเตอร์ของตัวละคร ตามเจตนารมณ์ของทีมผู้กำกับอย่างสูงสุด นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจอย่าง LOFT, SF Shop และ Animate Bangkok เพื่อจัดจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์ให้แฟนชาวไทยได้เลือกสะสม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแฟนคลับชาวไทยจะให้การสนับสนุนที่ดีกับบริษัทฯ และภาพยนตร์ยอดนักสืบจิ๋วโคนันเสมอไป
นายโสภณวิชญ์ หอธรรมรัตน์ รองผู้จัดการ บริษัท อาซาตซู (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “เอดีเค กรุ๊ป และ เอดีเค อีโมชั่น แบงค็อก เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่ให้บริการด้านการบริหารคอนเทนต์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์สินค้าชั้นนำมากมาย ด้วยความตั้งใจที่จะมอบความสุข ความสนุก และ แรงบันดาลใจให้กับผู้คนผ่านคาแรคเตอร์, สินค้าของสะสม, และกิจกรรมต่าง ๆ แก่ผู้คนทั่วโลกผ่านทาง ADK Emotions Global Network”
“ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เดอะ มูฟฟวี่” ตอนใหม่ล่าสุด!....กระสุนสีเพลิง อีกหนึ่งปฐมฤกษ์แห่งความบันเทิงของคนรักภาพยนตร์แอนิเมชั่นเมืองไทย เพื่อสานต่อปรากฎการณ์การสร้างรายได้ถล่มทลาย ในทุกครั้งที่เข้าฉาย โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาประเทศญี่ปุ่นได้จัดฉายภาพยนตร์ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ภาคพิเศษ ซึ่งเป็นบทสรุปเนื้อหาก่อนนำเข้าสู่ความตื่นเต้นในตอนใหม่ล่าสุดนี้ สามารถกวาดรายได้มากถึง 75,000 ล้านเยน ณ ประเทศญี่ปุ่น นับเป็นการการันตีกระแสการติตตามของกลุ่มแฟนคลับที่ไม่ได้ห่างหายไปตามกาลเวลาได้เป็นอย่างดี สำหรับในประเทศไทย ภาพยนตร์ชุดใหม่นี้จะเริ่มฉายทั้งในระบบเสียงพากย์ไทยและเสียงในฟิล์มบรรยายไทยในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2564 นี้ เป็นต้นไป
ข่าวเด่น