นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 39) ปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์ ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และนโยบายการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยยังคงไว้ซึ่งมาตรการควบคุมและป้องกันโรคต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง กรมการขนส่งทางบกจึงได้ปรับปรุงมาตรการปฏิบัติเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยให้ผู้ประกอบการขนส่งปฏิบัติ ดังนี้
1. คัดกรองผู้โดยสารและตรวจวัดอุณหภูมิก่อนการให้บริการ โดยผู้โดยสารจะต้องมีอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส
2. กำกับ ดูแล ให้พนักงานขับรถหรือผู้ให้บริการ และผู้โดยสาร สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง
3. ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสภายในรถด้วยแอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อทั้งก่อนและหลังการให้บริการ เช่น ราวจับ เบาะที่นั่ง และห้องสุขาบนรถโดยสารสาธารณะ ให้ทำความสะอาดทุก 2 ชั่วโมง
4. จัดให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ สำหรับพนักงานขับรถและผู้โดยสารล้างมือก่อนขึ้นรถ
5. งดให้บริการอาหารบนรถในระหว่างการเดินทาง เว้นแต่กรณีที่มีเหตุจำเป็น
6. จำหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้า ผ่านทางโทรศัพท์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน เพื่อความสะดวก ในกรณีที่มีการจำหน่ายตั๋วโดยสารผ่านจุดบริการจำหน่ายตั๋วโดยสาร ต้องจัดคิวการเข้าซื้อตั๋วให้เป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
7. จัดเก็บข้อมูลของผู้โดยสาร โดยให้ผู้โดยสารลงทะเบียนเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารลงทะเบียนเข้าใช้แพลตฟอร์ม “THAI SAVE THAI (TST)” หรือแอปพลิเคชันอื่น ก่อนการเดินทาง
8. ให้หยุดหรือจอดรถให้ผู้โดยสารลงจากรถในสถานที่หยุดหรือจอดตามที่กำหนดไว้
9. จัดให้มีการระบายอากาศภายในรถโดยสารปรับอากาศ เพื่อระบายอากาศภายในรถขณะเดินทางทุก 2 ชั่วโมง หมั่นตรวจสอบการทำงานของระบบระบายอากาศและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
10. สำหรับรถจักรยานยนต์สาธารณะ ควรทำความสะอาดแฮนด์รถจักรยานยนต์ เบาะนั่ง และหมวกกันน็อกสำหรับผู้โดยสารด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ สำหรับประชาชนที่ใช้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะเป็นประจำ
ควรมีหมวกกันน็อกเป็นของตนเอง และควรงดการพูดคุยในระหว่างใช้บริการเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรค
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการให้บริการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ทั้งรถโดยสารประจำทางในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเส้นทางระหว่างจังหวัด (หมวด 1 ในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง หมวด 4 กรุงเทพมหานคร หมวด 2 หมวด 3) รวมถึงรถโดยสารไม่ประจำทางที่มีท้องที่ทำการขนส่งทั่วราชอาณาจักร สามารถให้บริการเดินรถตามเวลาปกติ ส่วนการให้บริการของรถโดยสารประจำทางในเส้นทางหมวด 1 หมวด 4 และรถโดยสารไม่ประจำทาง ในเขตจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร ให้เป็นไปตามคำสั่งคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัด โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งปฏิบัติและควบคุม กำกับ ดูแลการให้บริการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคตามที่จังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแต่ละจังหวัดกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
ข่าวเด่น