หุ้นทอง
กระแสโลกกำลังมาแรง การลงทุน ETF ปี 2565


กองทุนรวม ETF (Exchange-Traded Fund) ขณะนี้ กลายเป็นสินทรัพย์การลงทุนอีกประเภทหนึ่งที่เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก และมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จากกองทุนรวม ETF จำนวน 1,500 กองในปี 2551 ขยับขึ้นเป็น 7,600 กองในปี 2563


รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายหลักทรัพย์ต่างประเทศและฟิวเจอร์ส บล.บัวหลวง บอกว่า โดยนักลงทุนสามารถใช้กองทุนรวม ETF เป็นเครื่องมือในการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนโดยรวม ที่สำคัญสามารถซื้อขายได้แบบ Real Time ในตลาดหลักทรัพย์เหมือนหุ้นตัวหนึ่ง ทำให้ไม่ต้องรอลุ้นราคา NAV ณ สิ้นวันเหมือนกองทุนรวมทั่วไป
 
รัฐศรัณย์ บอกด้วยว่า นอกจากนี้ ยังสามารถลงทุนในสินทรัพย์ได้หลากหลาย เช่น หุ้น (Equity ETF), กลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ในกระแส (Sector ETF, Thematic ETF), ตราสารหนี้ (Bond ETF), สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity ETF) แม้กระทั่ง ETF ที่อ้างอิงสกุลเงินดิจิตอล (Cryptocurrency ETF)
 
โดยหากพิจารณากองทุนรวม ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564) รัฐศรัณย์ ยังพบว่ามีจำนวน 11 กองทุน โดยทั่วไปแล้ว ETF ส่วนใหญ่จะเน้นการลงทุนแบบ Passive ซึ่งมีนโยบายลงทุนตามดัชนีต่าง ๆ เพื่อสร้างผลตอบเเทนให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีที่อ้างอิงมากที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 5 ประเภท ได้แก่

• Equity ETF : มุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาหุ้นในประเทศ
• Sector ETF : มุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม
• Foreign ETF : มุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาหุ้นต่างประเทศ
• Bond ETF : มุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาตราสารหนี้
• Gold ETF : มุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาทองคำ

ในปัจจุบันโอกาสสำหรับนักลงทุนไทยได้เปิดกว้างขึ้นมาก และไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเฉพาะในตลาดหุ้นไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถกระจายการลงทุนไปยังตลาดหุ้นทั่วโลกได้ ด้วยการลงทุนโดยตรงในกองทุนรวม ETF ผ่านบริการลงทุนต่างประเทศของโบรกเกอร์ไทยหลายแห่ง เป็นการเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้หลากหลายขึ้นในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ

เช่น ธีมการลงทุนโลกเสมือน Metaverse ที่อยู่ในกระแสขณะนี้ หลังจากที่ Facebook ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อสร้างความชัดเจนในการมุ่งสู่ธุรกิจนี้อย่างเต็มตัว โดยนักลงทุนที่สนใจลงทุนตามธีมนี้ ก็อาจพิจารณาลงทุนในกองทุนรวม ETF ที่ชื่อว่า META หรือ The Roundhill Ball Metaverse ETF ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ออกโดยบริษัท Roundhill Investments ซึ่งมีการกระจายการลงทุนไปในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธีม Metaverse เช่น Nvidia, Roblox, Microsoft, Unity Software, Meta Platforms, Amazon หรือ Tencent เป็นต้น
 
รัฐศรัณย์ ย้ำด้วยว่า นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบก่อนที่จะลงทุนในกองทุนรวม ETF ด้วย เช่น ขนาดกองทุน (AUM) ปริมาณการซื้อขายต่อวัน ค่าธรรมเนียมการจัดการ หรือความน่าเชื่อถือของบริษัทผู้ออกกองทุนรวม ETF เป็นต้น
 
รัฐศรัณย์ บอกต่อว่า อีกธีมการลงทุนซึ่งเป็นที่สนใจและอยู่ในกระแสของนักลงทุนทั่วโลกมาได้ระยะหนึ่งแล้ว และคาดว่าจะอยู่ต่อไปอีกหลายปี นั่นก็คือ ธีมการลงทุนในพลังงานสะอาด หรือการลดการใช้คาร์บอน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ผู้นำทั่วโลกให้ความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน

“ดังที่ได้มีการประชุมระดับโลกในงาน 2021 United Nations Climate Change Conference ไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา”

โดยหากนักลงทุนสนใจก็สามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวม ETF ที่ชื่อว่า ICLN หรือ iShares Global Clean Energy ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ออกโดยบริษัท BlackRock ซึ่งเป็นบริษัทผู้ออกกองทุนรวม ETF ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งในด้านขนาดกองทุน AUM ที่สูงถึง 2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และจำนวนกองทุนรวม ETF ที่มากถึง 390 กองทุน โดย ICLN ได้กระจายการลงทุนไปในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดทั่วโลก เช่น Enphase Energy, Vestas Wind Systems, Plug Power, Orsted หรือ Bloom Energy เป็นต้น
 
รัฐศรัณย์ ย้ำด้วยว่า สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่กำลังมองหากองทุนรวม ETF สักกอง อาจเริ่มต้นลงทุนกองทุนรวม ETF ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทย รวมถึง ETF ที่อ้างอิงดัชนีหลักของโลกอย่างดัชนี S&P500 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตามคำแนะนำของตำนานนักลงทุนระดับโลกอย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ที่ได้กล่าวในงานประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2021 ของบริษัท Berkshire Hathaway ว่าหากยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการเลือกหุ้นรายตัวควรเลือกลงทุนในกองทุนรวม ETF และสามารถลงทุนด้วยวิธีทยอยลงทุน (DCA) ถือเป็นจุดเริ่มต้นการลงทุนที่มีเป้าหมายลงทุนในระยะยาว และต้องการให้เงินลงทุนเติบโตตามตลาดไปเรื่อย ๆ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 ธ.ค. 2564 เวลา : 09:41:43
30-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 30, 2024, 2:26 pm