กลยุทธ์การลงทุน:
SET ปรับขึ้นโดดเด่นเมื่อวานด้วยแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งหากยังมีโมเมนตัมต่อเนื่อง จะช่วยหนุน SET ขึ้นทดสอบจุดสูงเดิมบริเวณ 1658 จุด ส่วนวันนี้คาดว่ามีการชะลอตัวเพื่อลดความร้อนแรงบ้าง โดยมีกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1630 จุด หากไม่ต่ำกว่า ยังเป็นสัญญาณที่ดีในภาพรวมได้อยู่ กลยุทธ์ Selective Buy หรือเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง ส่วนพอร์ตหลักจุดซื้อเพิ่มรอคำแนะนำอีกครั้ง หลังให้เพิ่มหุ้นในสัดส่วน 50% ไปแล้ว
ล็อคเป้าลงทุน:
> กลยุทธ์ลงทุน แนะนำรอจังหวะซื้อ ไม่ไล่ราคา หลังตลาดตอบสนองเชิงบวกต่อ Omicron ที่อาการไม่รุนแรงไปมากแล้ว Upside เริ่มจำกัด
> Core Portfolio : แนะนำ Let Profit Run โดยมีน้ำหนักหุ้นในพอร์ตหลัก 50% แบ่งเป็น 25% ในหุ้น Global Reopening อย่าง MINT CRC AOT TOP และ 25% ในหุ้น blue chip อย่าง KBANK SPALI INTUCH GPSC
> Weekly Portfolio : เก็งกำไรหุ้น Domestic Reopening ไม่เกิน 25% ของพอร์ต (เหลือ 25% เก็บไว้รอโอกาสหากเกิดการระบาดรุนแรงเกินคาด) แนะนำ CPN จัดงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ได้หลังโควิด-19 ในไทยไม่รุนแรงและได้อานิสงส์หาก ครม.เห็นชอบโครงการช้อปดีมีคืน
> Daily Focus : Long IVL หลังราคาหุ้นยังปรับขึ้นน้อยกว่ากลุ่มพลังงานและได้อานิสงส์ราคาฝ้ายปรับขึ้น 3.9%DoD ขณะที่ยังคง Short PSL จากดัชนีค่าระวางลงต่อเป็นวันที่ 6 โดยล่าสุด BDI Index ลดลง 6.3%DoD ปิดที่ 2,498 จุด
ประเด็นสำคัญ
# ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลง ยุโรป-ราคาน้ำมันปรับขึ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลง กดดันจากแรงขายหุ้น Tech ที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ย หลังการประชุม Fed เร่งลด QE และเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วสูงกว่าคาด ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้น ราคาน้ำมันขยับขึ้นเช่นกัน
# BoE ประกาศขึ้นดอกเบี้ย ส่วน ECB ยังคงดอกเบี้ยตามเดิม
โดยคณะกรรมการฯ BoE มีมติ 8-1 เสียงในการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.25% พลิกความคาดหมายว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 0.10% และมีมติ 9-0 เสียง ให้คงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ 8.75 แสนล้านปอนด์ ขณะที่การประชุม ECB ยังคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ 0% คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ ธ.พ.ฝากไว้กับ ECB ที่ -0.50% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ 0.25% ส่วน BOJ ประชุมวันสุดท้ายวันนี้ คาดยังคง ด.บ. เช่นเดียวกับการประชุม กนง. 22 ธ.ค. นี้ คาดยังคง ด.บ.นโยบายที่ 0.50% ตามเดิม
# ก.ท่องเที่ยว เตรียมเพิ่มงบฯ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4
โดยจะนำงบฯ ที่เหลือจากโครงการทัวร์เที่ยวไทยมาสนับสนุน โดยจะนำเข้าเสนอ ครม. พิจารณาในวันที่ 21 ธ.ค. นี้ ทั้งนี้ได้มีการปรับเป้า นทท. ต่างชาติปีหน้าเป็น 8-15 ล้านคน สร้างรายได้ 1.3 -1.5 ล้านลบ. ส่วนปี 2566 คาดมี นทท. 20 ล้านคน โดยรวมยังเป็น sentiment บวกต่อหุ้นโรงแรม และหุ้น domestic reopening
Wealth Strategy
แนะนำหุ้นกู้ตลาดรองน่าสนใจ
บมจ.ปตท.(PTTC) อายุคงเหลือ 6 ปี อันดับเครดิตหุ้นกู้ AAA
บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) อายุคงเหลือ 7 ปี อันดับเครดิตหุ้นกู้ AA-
บทวิเคราะห์วันนี้
TQM – เติบโตดีทั้งจากตัวบริษัทเองและกิจการที่ซื้อมา
ข่าวเด่น