นางพรรณี พุ่มพันธ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานคุณภาพการบริการที่เข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน โดยในปีงบประมาณ 2565 เน้นผลักดันให้ผู้เสียภาษีรถประจำปี
.jpg)
ใช้บริการชำระภาษีผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะเห็นได้จากจำนวนช่องทางให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบออนไลน์ที่มีหลากหลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th, แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax, เคาน์เตอร์เซอร์วิส, โมบายล์แอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet ที่มีความสะดวก รวดเร็ว เจ้าของรถไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง ลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ รอรับเครื่องหมายการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน พร้อมยกระดับมาตรฐานการบริการให้ครอบคลุมเจ้าของรถที่มีอายุ การใช้งานเกิน 7 ปีหรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี หรือรถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี สามารถชำระภาษี ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ โดยมีเงื่อนไขต้องนำรถเข้าตรวจสภาพกับสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ให้เรียบร้อยก่อนดำเนินการชำระภาษีประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ ส่วนรถที่ไม่มีเงื่อนไขต้องตรวจสภาพรถก่อนชำระภาษีสามารถดำเนินการได้ทันที อย่างไรก็ตาม รถที่เข้าข่ายต้องตรวจสภาพก่อนชำระภาษีประจำปี สามารถใช้บริการชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถหรือบริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) ที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคารพาณิชย์ที่ร่วมโครงการกับกรมการขนส่งทางบก หรือที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการผลักดันให้ผู้เสียภาษีรถประจำปีใช้บริการชำระภาษี
ผ่านช่องทางออนไลน์ ส่งผลให้สถิติการให้บริการชำระภาษีรถประจำปีของกรมการขนส่งทางบก ในเขตกรุงเทพมหานคร
ในเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยเฉพาะการให้บริการชำระภาษีออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ทั้งบริการชำระภาษีรถประจำปี
ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax มีผู้ใช้บริการจำนวน 6,106 คัน ผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th จำนวน 51,648 คัน เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำนวน 11,563 คัน ผ่านแอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet จำนวน 863 คัน สำหรับการใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 มีผู้ใช้บริการจำนวน 375,668 คัน การใช้บริการ เลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 74,386 คัน ชำระภาษีรถประจำปี ณ ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 600 คัน
ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) จำนวน 2,484 คัน และผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ร่วมโครงการ จำนวน 1 คัน รวมมียอดผู้ใช้บริการชำระภาษีประจำเดือนพฤศจิกายน 2564 ทั้งสิ้น 523,319 คัน สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 บริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) ขยายเวลาเปิดให้บริการเป็น 07.30 – 18.00 น. ทุกวันทำการ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 7 มกราคม 2565 ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ หากไม่สะดวกใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี สามารถเลือกใช้บริการชำระภาษีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้
โดยระบบจะแสดงหลักฐานการชำระภาษีรถประจำปีชั่วคราวไว้เป็นหลักฐานแสดงการชำระภาษี จนกว่าจะได้รับเครื่องหมาย การเสียภาษีประจำปีจากกรมการขนส่งทางบก สามารถเลือกรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีทางไปรษณีย์ หรือเลือกรับ ผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) ภายในสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 ก็ได้
ข่าวเด่น