รับข่าวขึ้นดอกเบี้ยกระทบราคาทอง Sideway down
โควิดในประเทศกดดันดัชนีแกว่งตัวผันผวน
สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์แห่งความผันผวนก็ว่าได้ เนื่องจากต้นสัปดาห์ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงสุดบริเวณ 1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สาเหตุมาจากตลาดรับข่าวยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐกลับมาพุ่งสูงแตะใกล้แตะระดับ 1 ล้านคนต่อวัน
อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจอย่าง ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ISM และตำแหน่งงานที่เปิดรับออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ราคาทองคำจึงปรับตัวขึ้น ต่อมาตลาดถูกกดันจากรายงานการประชุม FOMC ที่ชี้ให้เห็นว่าเฟดเองกลับมากังวลเงินเฟ้อในสหรัฐ ที่คาดการณ์ว่าในระยะถัดไปเงินเฟ้ออาจทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป เฟดจึงเร่งใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวด
กล่าวคือ ปรับลดวงเงิน QE เพิ่ม จาก 15,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน เป็น 30,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน และจะยุติการทำ QE ในเดือนมีนาคมนี้ และอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นการเซอร์ไพรส์ตลาดเชิงลบ จึงส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นยืนเหนือระดับ 1.70% ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่ากดดันราคาทองคำให้ย่อตัวหลุด 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่สัปดาห์หน้าต้องจับตาตัวเลขเงินเฟ้อเดือนธันวาคม โดยตัวเลขทั้งฝั่งผู้ผลิต PPI และ ฝั่งผู้บริโภค CPI ซึ่งปัจจุบันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างน้ำมันเองซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญในการผลิตเร่งตัวสูงในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาถึง 14% จึงคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะยังคงทรงตัวระดับสูงต่อไป และจะเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เฟดพิจารณาปรับนโยบายการเงินในระยะถัดไป โฟกัสหลักๆที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำอย่าง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐ( bond yield) และ ดัชนีดอลลาร์ (dollar index) ที่สามารถใช้สะท้อนความกังวลของตลาดที่มีต่อนโยบายการเงินได้
ฝ่ายวิจัย บล.โกเบล็ก ประเมินว่าสัปดาห์นี้ราคาทองคำอาจ Sideway down และทยอยรับข่าวการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่เร็วขึ้น จะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองในระยะถัดไปกรอบการซื้อขาย 1,775-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บรรยากาศการลงทุนเมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) ดัชนีปรับตัวรีบาวด์ ประมาณ +5 จากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และขนส่ง ยังมีแรงกดดันจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เร่งตัวสูงขึ้น ผลการประชุมศบค. ได้มีการยกระดับพื้นที่สีส้ม-เลื่อนเปิดสถานบันเทิง-ระงับ Test&Go ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,657.62 จุด +4.59 จุด +0.28% มูลค่าการซื้อขาย 88,845 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน โดยถูกกดดันจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ ที่จำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้น โดย สธ. ได้ประกาศยกระดับมาตรการเตือนภัยโควิดเป็นระดับ 4 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง พยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640-1,670 จุด
ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นึ้ได้แก่ หุ้น RBF รราคาปิดล่าสุด อยู่ที่ 22.90 บาท ราคาอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยมี Volume เข้าวันแรก และ MACD เพิ่งส่งสัญญาณซื้อ หากผ่าน High เดิมที่ 24.00 บาท ลุ้นทดสอบต้านถัดไปที่ 25.00 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 22.70 บาท และมีจุดcut loss ที่ 22.70 บาท
และหุ้น ASIAN ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 18.10 บาท กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ พร้อม Volume เริ่มกระตุก และ MACD เตรียมพลิกตัวส่งสัญญาณบวก คาดราคามีโอกาสเหวี่ยงตัวทดสอบแนวต้านที่ 18.50-19.30 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 17.80 บาท และมีจุด cut loss ที่ 17.50 บาท
.jpeg)
ข่าวเด่น