ราคาทองผันผวนในกรอบ 1,775-1,850 ดอลล์
ดัชนีแกว่งตัวผันผวน Sideway Up
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นก่อนประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ โดยราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากจุดต่ำสุดบริเวณ 1,807 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สาเหตุมากจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ล่าสุดไบเดนเริ่มเข้ามามีบทบาทโดยขู่รัสเซียว่า หากบุกยูเครนจะให้เยอรมนีปิดท่อก็าซฯ
พร้อมทั้งหนุนเยอรมนีคว่ำบาตรรัสเซีย เมื่อความตึงเครียดดังกล่าวมีมากขึ้นทองคำเองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจึงปรับตัวสูงขึ้น สอดคล้องกับสัญญาณการเข้าซื้อทองคำของกองทุน SPDR โดยเดือนกุมภาพันธ์มียอดเข้าซื้อสะสมอีก 1.70 ตัน ทำให้ยอดสะสมตั้งแต่มกราคมจนถึงปัจจุบัน SPDR เข้าซื้อเพิ่มขึ้นกว่า 40.3 ตัน เป็นสัญญาณบวกต่อทองคำ
ช่วงปลายสัปดาห์มีประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมกราคมของสหรัฐ ตัวเลขออกมาสูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 7.5% สูงสุดในรอบ 40 ปี เมื่อเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ตลาดจึงกลับมากังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายและลดงบดุลเพื่อสกัดเงินเฟ้อดังกล่าว ทำให้ bond yield เร่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 30 เดือนที่ระดับ 2.04% และ dollar index ปรับขึ้นบริเวณ 95.84 กดดันราคาทองคำให้อ่อนตัว
สัปดาห์นี้คาดว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวผันผวน เนื่องจากมีประกาศตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตและยอดค้าปลีกของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะออกมาสูงกว่าครั้งก่อนหน้า เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังคงทรงตัวระดับสูงต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมต้นทุนการผลิตยังคงเร่งตัวขึ้น ขณะที่ช่วงปลายสัปดาห์ประกาศรายงานการประชุม FOMC จากครั้งก่อนและจับตาคำแถลงของประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ อย่างนาย เจมส์ บลูลาร์ด ที่หนุนเฟดให้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 1.0% ภายในกรกฎาคมนี้
อาจส่งผลให้ bond yield ทรงตัวระดับ 2.0% ต่อไป ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่าราคาทองคำอาจผันผวนในกรอบ 1,775-1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากย่อตัวหลุดไม่หลุดแนวรับให้ทยอยเข้าซื้อสะสม
สาวนบรรยากาศตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา (11 ก.พ.) ดัชนีปรับตัวลงต่ำสุดราว -12 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ที่ปรับตัวลง -0.3 ถึง -0.8% จากความกังวลที่เฟดอาจทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วและแรงกว่าคาดการณ์เดิม เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐรายงานออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ประกอบกับตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ดัชนีมีการพักตัว ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,699.20 จุด -3.80 จุด -0.22% มูลค่าการซื้อขาย 95,197 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway Up โดยยังมีแรงกดดันจาก สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ยังปรับตัวเร่งขึ้นต่อเนื่อง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,680-1,710 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น TTB ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 1.42 บาท กลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ โดยมีปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และ MACD มีค่าสัญญาณ Bullish หากผ่าน High เดิมที่ 1.50 บาท ลุ้นทดสอบต้านถัดไปที่ 1.70 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 1.38 บาท และมีจุด cut loss ที่ 1.30 บาท
และหุ้น CENTEL มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 35.25 บาท เลี้ยงตัวอยู่ในกรอบขาขึ้น โดยมี Volume สะสมต่อเนื่อง และ Slow Sto. เพิ่งพลิกตัวส่งสัญญาณบวก คาดราคามีโอกาส ทดสอบแนวต้านที่ 38.00-42.00 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 33.00 บาท และมี จุด cut loss ที่ 32.00 บาท
ข่าวเด่น