จากสถานการณ์ร้อนระอุที่คนส่วนใหญ่ในโลกให้ความสำคัญ และจับตามองกันอย่างใกล้ชิด ก็คงจะเป็นเรื่องของความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน มาเป็นอันดับหนึ่งในขณะนี้
ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 หรือในช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน เมื่อประธานาธิบดี”วลาดิมีร์ ปูติน”ผู้นำรัสเซีย ได้ประกาศสงครามกับยูเครน ด้วยการส่งทหารของรัสเซียกว่า 2 แสนนาย เข้ายึดพื้นที่ภูมิภาคดอนบัส (ที่ตั้งอยู่ในยูเครนติดกับรัสเซีย) ทำให้ทางการยูเครนได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ ความตึงเครียดดังกล่าวที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบมายังตลาดคริปโตและตลาดหุ้น โดยภายหลังการประกาศส่งผลให้หุ้นดัชนีของรัสเซีย “RTS” ปรับตัวลดลงกว่า 50% อ้างอิงจาก Tradingview ใน TF Day จากแท่งเปิดที่ 1061.4 เทลดลงมาปิดอยู่ที่ 742.91 ค่าเงินรัสเซียปรับตัวลดลงมา 10% และในตลาดของคริปโต ราคาของ Bitcon ปรับลดลงมาทันทีอยู่ที่ระดับต่ำสุด 34,322 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนค่อยๆทยอยปรับขึ้นมาทรงตัวอยู่ที่ราวๆ 38,000 ดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ขณะที่ทิศทางราคาทองคำนั้นผกผันอย่างเห็นได้ชัด อ้างอิงข้อมูลจากสมาคมค้าทองค้า เทียบกับวันก่อนหน้า(23 ก.พ.) ราคาทองคำในประเทศ ปรับตัวขึ้นมา 1,100 บาท (เวลา17.22 ของวันที่ 24 ก.พ.) โดยทองคำในประเทศมีการรับซื้ออยู่ที่บาทละ 29,900 บาท ขายออกที่ราคาบาทละ 30,000 บาท และราคาทองคำโลกปรับขึ้นมาอยู่ที่ 1,961 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สิ่งนี้บอกอะไรกับเรา?
หากเราย้อนรอยมองดูอดีตสงครามที่เกิดขึ้นในโลกของเรา สิ่งที่เห็นได้ชัดเลย คือ สภาวะของสินค้าขาดแคลน เรื่องของเสบียงอาหาร และสาธารณูปโภคพื้นฐาน จึงทำให้ราคาสินค้าต่างๆมีการปรับตัวที่สูงขึ้น หรือเราเรียกได้ง่ายๆว่า สงครามทำให้เกิดสภาวะของเงินเฟ้อขึ้นมานั่นเอง เหตุที่เป็นอย่างนั้น เพราะเงินของภาครัฐไหลไปเป็นทุนในสงคราม เพื่อสนับสนุนกำลังทางทหารของประเทศ ซึ่งรูปแบบนี้ก็อาจยังคงแพทเทิร์นเดิมมายังโลกปัจจุบัน ผู้อ่านอาจได้ทราบข่าวเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ว่า รัสเซียได้กลับลำ จากที่ธนาคารกลางรัสเซียได้ประกาศระงับการใช้เหรียญคริปโตในประเทศ ห้ามสถาบันทางการเงินดำเนินธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคริปโต และยังห้ามไม่ให้มีการขุดเหรียญอีกด้วย เป็นการประกาศอนุมัติว่าสกุลเงินคริปโตนั้นถือเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ถูกกฎหมายของรัสเซีย และกลายเป็นว่ารัสเซียนั้นเป็นประเทศที่มีการขุด Bitcoin ใหญ่เป็นอันดับ3 ของโลกเสียเองอีกด้วย และทางด้านยูเครนเองก็เป็นอีกประเทศที่รองรับเหรียญคริปโตเป็นสินทรัพย์ที่ถูกกฎหมาย จากการที่รัฐสภายูเครนลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายสินทรัพย์เสมือน (Virtual Assets) มอบสถานะทางกฎหมายให้กับคริปโตและสินทรัพย์เสมือนทั้งหมดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
การปรับตัวลดลงฉับพลันของมูลค่า Bitcoin และตลาดคริปโตโดยรวม หลังการประกาศสงคราม มีเหตุผลที่อาจเป็นไปได้ว่า มีการเทขายเหรียญเกิดขึ้นเพื่อจะเอาทุนไป Support ด้านทุนในสงคราม และเป็นตัวที่สะท้อนอีกอย่างหนึ่งว่า ผู้คนส่วนใหญ่ในโลกที่เป็น Majority หลัก มีความเชื่อแบบไหน (ในที่นี้เราเห็นการให้น้ำหนักในใจของผู้คนว่า สิ่งที่มีค่าคือสิ่งไหนที่ผู้คนเชื่อ) เพราะจากการที่ตลาดหุ้นและตลาดคริปโตร่วงลงมา เราได้เห็นทิศทางของมูลค่าทองคำที่ไม่ปรับตัวลดลงไป แต่หากมีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนได้ว่า คนส่วนใหญ่ยังเห็นพ้องต้องกันว่า “ทองคำ” ยังเป็น Stock of Value หรือเป็นสิ่งที่สามารถสะสมมูลค่า เก็บความมั่งคั่งเอาไว้ได้ โดยหากเรามองย้อนกลับไปอดีตอีก เราจะสังเกตเป็นแพทเทิร์นได้เลยว่า หากเกิดสงคราม มันก็จะเป็นตัวเร่งให้เกิดเงินเฟ้อ และสภาวะเงินเฟ้อที่การถือเงินสดในมือจะด้อยค่าลง ก็จะทำให้สภาวะที่ตลาดเกิดการช็อค ที่เม็ดเงินต่างจะถูกแปลงไปอยู่ในสิ่งที่สามารถเก็บความมั่งคั่งไว้อยู่ได้ ซึ่งก็คือ “ทองคำ” นั่นเอง
และนอกจากราคาทองคำแล้ว ค่าเงินของดอลลาร์สหรัฐก็แข็งค่าขึ้น ส่วนทางกับค่าเงินของรูเบิลรัสเซีย รวมถึงเงินบาทที่มีการอ่อนค่าลง โดยในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เงินบาทปิดที่ระดับ 32.54 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปรับตัวแข็งค่าขึ้นในอีกวัน ซึ่งสะท้อนได้อีกว่าสิ่งที่ผู้คนให้ค่า ให้ความเชื่อใจ ก็ยังคงเชื่อใจในตัวของเงินดอลลาร์สหรัฐมากที่สุด และก็ยัง Represent ได้ว่าผู้คนส่วนใหญ่อยู่ฝ่ายใด
กลไกลตลาดที่เกิดขึ้น ในมุมมองของด้านตลาดคริปโต อาจไม่ได้แปลว่า Bitcoin และเหรียญดิจิทัลสกุลอื่นๆ นั้นไม่มีค่า หรือถึงคราวอวสานแล้ว แต่มันเป็นตัวสะท้อนในขณะนี้ว่า ผู้คนส่วนใหญ่ๆในโลก ยังคงเชื่อการกักเก็บมูลค่าไว้ในตัวของทองคำ ที่คุ้นเคยกันมาอย่างยาวนานมากกว่า และยังสบายใจที่จะถือเงินดอลลาร์สหรัฐเอาไว้ เรียกได้ง่ายๆว่า สามารถอ่านพฤติกรรมของคนในตลาดส่วนใหญ่ออกว่ามีการโยกเงินไปพักไว้ที่สิ่งไหน ซึ่งเราอาจพิจารณาที่จะจัดสรรทรัพยากรด้านการเงินของเราไปยังอีกทางหนึ่งได้ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านกลไกตลาดที่อาจเกิดขึ้น แต่แน่นอนว่าเราไม่ได้มองเป็นโอกาสที่น่ายินดีสำหรับการช้อนเหรียญในตลาดคริปโต หรือเป็นด้านของทางหุ้นเองก็ตาม เพราะสถานการณ์สงครามที่เกิดขึ้น มีคนบาดเจ็บ มีคนล้มตายจริง และสร้างความลำบากให้กับประชาชน หรือคนตัวเล็กเต็มๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ ไม่ว่าจะกับประชาชนชาวยูเครน หรือประชาชนในรัสเซียเองก็ตาม จากเหตุการณ์สงครามที่พวกเขาไม่ได้เลือกและยินดีให้เกิดขึ้น
ที่มา
ข่าวเด่น