หุ้นทอง
ส่องหุ้นมองทอง : กรอบราคาทองคำอยู่แถว 1,900-2,000 ดอลล์


กรอบราคาทองคำอยู่แถว 1,900-2,000 ดอลล์

คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,650-1,700 จุด

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรง โดยทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,974 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากรัสเซียบุกยึด ลูฮันสก์-โดเนตสก์ในยูเครน อีกทั้งลงนามให้เป็นรัฐอิสระ การกระทำดังกล่าวทำให้ชาติใน NATO ร่วมประณามกระทำดังกล่าว
 

ขณะที่สหรัฐนำโดยไบเดนประกาศคว่ำบาตรทางการเงินรัสเซียสอดคล้องกับฝั่งยุโรปที่ร่วมคว่ำบาตรด้วยเช่นกัน ถึงแม้นานาชาติจะร่วมกดดันรัสเซียอย่างต่อเนื่อง แต่ปูตินส่งกองกำลังทหารบุกยูเครนอย่างต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญหนีไม่พ้นข้ออ้างกังวลว่ายูเครนจะเข้าร่วมกับ NATO ได้สำเร็จ รัสเซียจึงชิงลงมือก่อน เพื่อขู่ยูเครน

สงครามดังกล่าวหนุนให้สินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำเร่งตัวขึ้นแรง ขณะที่ โกลด์แมน แซคส์ ซึ่งก่อนหน้านี้คาดว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยมากถึง 7 ครั้ง แต่เมื่อสงครามเกิดขึ้นทำให้ความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้น

โกลด์แมน แซคส์ จึงปรับมุมมองโดยให้ความเห็นว่า สงครามที่เกิด อาจทำให้เฟดลังเลที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลทำให้ bond yield ย่อตัวลงหลุดระดับที่ 1.90% ส่วน SPDR ในเดือนกุมภาพันธ์นี้เข้าซื้อไปแล้วกว่า 15.60 ตัน

สัปดาห์หน้าจับสงครามรัสเซียกับยูเครนต่อไปว่า จะมีชาติฝั่งยูโรปยื่นมือมาช่วยหรือไม่ หากมีกองกำลังต่างชาติมาช่วย ทำให้สงครามอาจทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเป็นบวกทองคำจะเร่งตัวขึ้นได้ดีในภาวะสงคราม

ขณะที่ช่วงการสัปดาห์มีแถลงการณ์มุมมองประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์อย่างนาย เจมส์ บุลลาร์ค ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนมุมมองหลังสงครามเกิดขึ้นแล้วอาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย อีกทั้งยังมีประกาศตัวเลขภาคแรงงานปลายสัปดาห์

ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่าราคาทองในสัปดาห์หน้ายังทรงตัวในระดับสูงต่อไป เนื่องจากสงครามยังคงอยู่และมุมมองปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจไม่ร้อนแรงเท่าที่ควร กรอบการซื้อขายทองคำบริเวณ 1,900-2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำย่อตัวใกล้แนวรับแล้วไม่หลุดให้ทยอยเข้าซื้อสะสม

สำหรับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมาดัชนี (25ก.พ.) ปรับตัวรีบาวด์ ราว +17 จุด ดัชนียืนระดับได้ดีตลอดช่วงการซื้อขาย จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มค้าปลีก ไอซีที และพลังงาน โดยหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีส่วนใหญ่สาเหตุมาจาก ผลการดำเนินงานที่ออกมาดีกว่าคาดมาก รวมถึงหุ้นที่มี outlook การเติบโตดี

ส่วนสถานการณ์ในยูเครน รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,679.90 จุด +17.18 จุด +1.03% มูลค่าการซื้อขาย 87,768 ล้านบาท

ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวน โดยยังมีแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19ในประเทศรายใหม่ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,650-1,700 จุด

ส่วนหุ้นที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้น CRC ราคาปิดล่าสุดอยู่ 37.75 บาท ดีดตัวทะลุเส้นค่าเฉลี่ยทุกระดับ พร้อม Volume เข้าสองวันติด และ Slow Sto. เตรียมพลิกตัวส่งสัญญาณบวก หากผ่าน High ที่ 39.50 บาท ลุ้นทดสอบต้านถัดไปที่ 42.00 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 37.00 บาท และมีจุด cut loss อยู่ที่ 36.00 บาท

และหุ้น TIDLOR ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 37.50 บาท ดีดตัวขึ้นจาก Bottom Zone โดยมี Volume เริ่มกระตุก และ Slow Sto.+MACD ส่งสัญญาณซื้อต่อเนื่อง หากผ่าน EMA-200 ที่ 38.50 บาท จะมีต้านถัดไปที่ 40.50 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 36.50 บาท และมีจุด cut loss อยู่ที่ 36.00 บาท

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 ก.พ. 2565 เวลา : 09:57:07
30-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 30, 2024, 6:35 am