SCB ประกาศแต่งตั้ง "ดร.ยรรยง ไทยเจริญ"ผู้นำทัพคนใหม่ SCB WEALTH พร้อมเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่ง ในการให้คำปรึกษาด้านบริหารความมั่งคั่ง (Advisory Capability) ยกระดับทีมที่ปรึกษาการเงินให้มีศักยภาพอย่างมืออาชีพ พัฒนาคลังสมองด้านเทคโนโลยีการวางแผนการเงินต่อเนื่อง มุ่งสู่การเป็น "ผู้นำธุรกิจเวลธ์ของเมืองไทย" ตั้งเป้าภายใน 3 ปี AUM แตะ 2 ล้านล้านบาท
โดย "ดร.ยรรยง ไทยเจริญ" ผู้นำทัพคนใหม่ของ SCB WEALTH ระบุว่าภายใต้การบริหารของตนหลังเข้ามารับตำแหน่งจะดำเนินงานขับเคลื่อนแนวยุทธศาสตร์ใน 4 กลยุทธ์หลัก
1) ยกระดับคุณภาพของทีมที่ปรึกษาทางการเงิน (Relationship Manager) ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรระดับสากล ซึ่งจะทำให้ SCB WEALTH มีจำนวน RM ที่ได้รับการรับรองจากสถาบันชั้นนำของเอเชียมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยพัฒนารูปแบบการให้คำปรึกษา โดยเน้นกลยุทธการจัดสรรสินทรัพย์ที่ออกแบบเป็นพิเศษเฉพาะลูกค้าแต่ละราย (Personalized Asset Allocation) เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีบนความเสี่ยงที่ลูกค้ายอมรับได้
2) พัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการเงินให้มีความหลากหลายและครบวงจร แบบ open architecture โดยลูกค้าสามารถเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ดี เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่รับได้
3) มุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ให้อยู่ในระดับ Top Rank ของธุรกิจเวลธ์ในเมืองไทย โดยใช้กลยุทธ์การจัดพอร์ตแบบ Asset Allocation อย่างเหมาะสม ตามคำแนะนำของทีมคลังสมอง (SCB Wealth Advisory Team)
4) นำแพลตฟอร์มเทคโนโลยี และดาต้า มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลการลงทุนของลูกค้า ตลอดจนให้คำปรึกษาแบบ Hybrid Advisory ควบคู่ไปกับที่ปรึกษาทางการเงิน พร้อมขยายฐานการลงทุนในดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าด้วยการเพิ่มช่องทางการลงทุนผ่าน SCB Easy โดยตั้งเป้านักลงทุนดิจิตอลไว้ที่ 1.3 ล้านรายในปี 2567
"ผมพร้อมที่จะขับเคลื่อนธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง SCB WEALTH ให้เติบโตไปพร้อมกับความมั่งคั่งของลูกค้าเวลธ์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี โดยมุ่งเน้นการสร้าง Advisory Capability ให้มีความแข็งแกร่งในธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง พร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจเวลธ์ของเมืองไทย และเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบัน SCB WEALTH มีฐานลูกค้าเวลธ์ ที่มีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป กว่า 400,000 ราย ซึ่งรวมถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (High Net Worth Individuals) และตั้งเป้าหมายภายในสิ้นปี 2567 จะมี AUM แตะที่ระดับ 2 ล้านล้านบาท"ดร.ยรรยงกล่าว
ทั้งนี้ การประกาศแต่งตั้งของธนาคารไทยพาณิชย์ "ดร.ยรรยง ไทยเจริญ" จะดำรงตำแหน่ง รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wealth ซึ่งจะเป็นผู้นำทัพของ SCB WEALTH ควบคู่กับตำแหน่ง รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wholesale ที่ดูแลทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคลที่มีความมั่งคั่งระดับสูงและกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่
โดย ดร.ยรรยง ไทยเจริญ นับเป็นบุคคลที่คร่ำหวอดด้านเศรษฐกิจ การเงินและการลงทุน มากว่า 20 ปี มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพ และความเชี่ยวชาญด้านแนวโน้มเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ ตลอดจนนัยของนโยบายและกระแสการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่มีต่อการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงประสบการณ์ด้านการกำหนดกลยุทธ์องค์กร โดยที่ผ่านมาได้รับผิดชอบงานในฐานะผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก่อนจะมาร่วมงานกับธนาคารไทยพาณิชย์ ในปี 2561 ดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม Economic Intelligence Center (EIC) ซึ่งนอกจากจะรับผิดชอบงานจัดทำบทวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคและธุรกิจราย Sector ที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนและประชาชนทั่วไปอย่างกว้างขวางแล้ว ดร.ยรรยง ยังได้ทำหน้าที่เป็นกรรมการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ และคณะกรรมการการลงทุนของธนาคารในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงเป็นที่ปรึกษาและผู้บรรยายให้ความรู้กับองค์กรภายนอก และสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง ส่วนด้านการศึกษา ดร.ยรรยง จบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ระดับปริญญาตรีและปริญญาเอก จาก MIT ประเทศสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) นับเป็นภารกิจที่สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรของธนาคารไทยพาณิชย์ และเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สร้างการเติบโตรายได้ให้กับธนาคารอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ดร.ยรรยง เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์สูง มีความรู้ ความเข้าใจทั้งในภาคเศรษฐกิจและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างดี ซึ่งจะนำพาให้ SCB WEALTH เป็นผู้นำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง และพัฒนาศักยภาพของที่ปรึกษาทางการเงินอย่างมืออาชีพ
ข่าวเด่น