“แถวนี้มันเถื่อน บอกตรงๆนะ ถ้าไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้” เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนคงคุ้นหู หรือเคยได้ยินกันมาบ้าง จริงๆ แล้ว วลีนี้เป็นบทหนึ่งในหนังเรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง ที่ลงจอโรงภาพยนตร์ไปเมื่อ15 ปีที่แล้ว แต่ที่วลีนี้ได้กลายเป็นบทพูดอมตะ เพราะมีการนำมาผลิตและใช้ซ้ำ โดยเฉพาะการทำเป็น Meme ไปใช้ในสถานการณ์ที่มีความ Relate กัน หรือนำบทพูดดังกล่าวไปใช้อธิบายเหตุการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงประเด็น
เช่นเดียวกับโลกของ Digital Asset เป็นโลกการเงินแบบ Decentralized ที่มีอำนาจกระจายศูนย์ และมีความเป็นเสรีจากระบบ Blockchain ก็จริง แต่ในขณะเดียวกัน สำหรับ Newbie หรือผู้ที่ไม่ได้สันทัดเกี่ยวกับเทคโนโลยีมากนัก การทำธุรกรรมในโลกใบนี้ โดยเฉพาะในครั้งแรก ที่เราจะกด Swap เหรียญ ลองใช้ Protocol ที่มี หรือการกดซื้อ NFT จากเว็บของโปรเจค หรือใน Marketplace ก็อาจเป็นเรื่องที่น่าหวาดเสียว หรือเหมือนจะเกิดความดันสูงขึ้นฉับพลัน เพราะเรื่องการโจรกรรมทางไซเบอร์ในโลก Digital Asset ต้องยอมรับว่ามีอยู่มาก เนื่องจากเป็นโลกระบบการเงินแบบใหม่ ที่มีการลงทุนลงเงินจริงในตลาดนี้ มันจึงเป็นที่น่าล่อตาล่อใจของโจรหรือผู้ไม่หวังดี ในการพยายามหาช่องโหว่ที่จะขโมยเงินของผู้ลงทุนในทุกๆ ครั้งที่มีโอกาส หลายๆ คนที่เข้ามาลงทุนเลยอาจจะเจอกับพิธีรับน้องใหม่จากรุ่นพี่ Hacker ไม่ว่าจะขโมยเหรียญออกไปจนหมด หรืองานขโมยงาน NFT มูลค่าหลายแสนที่เราลงทุนไป จึงไม่แปลกที่บางคนจะนิยามว่าโลกใบใหม่ใบนี้อันตราย เหมือนกับพื้นที่กับดักระเบิด ที่เราอาจจะเจอแจ็คพอดได้ในสักวัน
แต่ในความเป็นจริง มันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าจะเกิดสิ่งนี้ตามมา ด้วยความที่มันรันด้วยระบบ Decentralized ไม่ได้มีศูนย์กลางอย่างธนาคาร มาคอยจัดสรรทรัพย์สิน หรืออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมให้เรา แต่ผู้ลงทุนทุกคนต้องดูแลสินทรัพย์ของตัวเอง แลกมากับการเป็นอิสระจากการถูกควบคุม
โดยรัฐบาล ที่อาจนำเงินหรือความมั่งคั่งของเราไปแขวนกับสงครามทางเศรษฐกิจ (เช่น สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน) หากเรามีการดูแลรักษาสินทรัพย์บนระบบดิจิทัลที่มีความหละหลวม หรือใส่เงินในเซฟโดยแปะรหัสเอาไว้หน้าตู้ ก็ไม่แปลกที่จะมีการโจรกรรมทางไซเบอร์เกิดขึ้น แต่ถ้าเราไม่สะเพร่า และมีความรัดกุมในการดูแลสินทรัพย์ของตนเอง เราก็จะสามารถหลีกเลี่ยงจากโดนยกเค้าได้ ทาง "AC News" เลยอยากมาแนะนำพฤติกรรมที่ดี ที่ควรทำ เพื่อรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของเราให้ปลอดภัยจากมือขโมยไซเบอร์ ดัง 5 ข้อนี้
1.เก็บ Seed phrase ไว้ในแบบ Offline
ในการสมัครเพื่อเปิดใช้ Crypto Wallet หรือกระเป๋าดิจิทัล ที่เปรียบเสมือนกับ Account บัญชีในการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล และการเข้าสู่ระบบเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ในขั้นตอนของการสมัครกระเป๋า เราควรจด Seed phrase ที่เป็น Private Key ของเราลงบน Offline เช่น กระดาษ หรือดีขึ้นมาหน่อย ก็คือแผ่นเหล็กสำหรับบันทึกรหัส (Crypto Steel) ไม่ควรแคปหน้าจอ จดลงบนโน้ตในสมาร์ทโฟน ส่งรหัสผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเก็บเอาไว้เอง (เช่นส่งข้อความไปยังบัญชีทวิตเตอร์ของเราอีกบัญชีหนึ่ง หรือส่งในไลน์ตัวเอง) หรือเก็บไว้ในอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีการเชื่อมต่อระบบออนไลน์ เพราะมันเสี่ยงต่อการโดนแฮ็คข้อมูล หากอุปกรณ์ของเรามีไวรัส หรือมัลแวร์ในเครื่อง หรือการเจาะรหัสเข้ามาในบัญชีออนไลน์ของเราในกรณีที่รหัสเราคาดเดาได้ง่าย
2.หลีกเลี่ยงการเข้าเว็บแปลกๆ หรือเว็บไซต์ผิดกฎหมาย
แม้จะเก็บ Private Key ในรูปแบบ Offline แล้ว แต่ทุกครั้งในการทำธุรกรรม เราก็ยังต้องมีการ Connect กระเป๋าดิจิทัล ผ่าน Browser Extension ด้วยการใช้ Password สำหรับการเข้าระบบอีกที หากเรามีพฤติกรรมที่เข้าดูเว็บไซต์แปลกๆ เช่น เข้าเว็บไซต์สตรีมหนังที่ผิดกฎหมาย เว็บการพนันออนไลน์ ก็เสี่ยงที่คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนของเราจะติดไวรัส หรือได้รับมัลแวร์ ซึ่งสามารถแฮ็ค Password กระเป๋าดิจิทัล จากอุปกรณ์ของเรา ทำการโอนเหรียญคริปโต หรือ NFT ที่มีไปให้กับ Address กระเป๋าอื่นของโจรได้
3.ควรลงทุนซื้อ Hardware Wallet เชื่อมกับทุกกระเป๋าดิจิทัลที่มี
Crypto Wallet จะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ Cold Wallet และ Hot Wallet โดยที่ Cold Wallet จะเป็นประเภทของกระเป๋าที่ไม่ได้มีการเชื่อมต่อบนอินเตอร์เน็ต กระเป๋าประเภทนี้จะใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า “Hardware Wallet” (มีลักษณะคล้ายกับ USB) การที่เราใช้ Hardware Wallet เชื่อมกับ กระเป๋าดิจิทัลของเรา (Hot Wallet) ในการทำธุรกรรมทุกครั้ง ระบบจะ Require การยืนยันบนตัวของ Hardware Wallet มันจึงเป็นการปิดประตูใส่แฮ็กเกอร์ทางอินเตอร์เน็ตในข้อ 2 อีกชั้นไปโดยปริยาย
4.ตรวจสอบ URL ของเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินแบบ Decentralized ทุกครั้ง
ไม่ว่าจะเป็น Protocol ที่ให้บริการในการ Swap เหรียญ การทำ Yield Farming หรือเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้ Mint NFT ควรตรวจสอบที่อยู่เว็บไซต์ให้ดีว่าเป็นของ Official จริงๆ ไม่ควรพิมพ์หาใน Google เพราะหลายต่อหลายครั้ง จะมีเว็บ Scam ที่ยิง Ads โฆษณาขึ้นมาบน Google และ URL ถ้ามองเผินๆ จะเหมือนกับทาง Official มาก ทางที่ดีควรเข้าไปคลิกลิงค์จาก Account Official ทางทวิตเตอร์ หรือทาง Discord โดยตรง เพราะถ้าเราเผลอเข้าเว็บ Scam ในการจะทำธุรกรรมทุกครั้ง หน้าต่างกระเป๋าดิจิทัลของเราจะเด้งขึ้นมาให้ Sign Contract ถ้าเรายินยอมกดตกลงเอง ถึงแม้จะใช้ Hardware Wallet ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
5.ระมัดระวังการใช้ Discord
Discord นั้นเป็นแพลตฟอร์ม Community ของแต่ละโปรเจคที่จะสื่อสารกับผู้ลงทุนโดยตรง (หรือผู้ที่สนใจในโปรเจคนั้นๆ) แต่ Account Discord ของทาง Official นั้นก็มีโอกาสในการถูกแฮ็คจากผู้ไม่หวังดี และทำการส่งลิงค์เว็บ Scam มาให้คนใน Community ซึ่งโดยส่วนใหญ่คนจะตกหลุมพรางมากที่สุด ในเวลาที่โปรเจคนั้นๆ เปิดให้ Mint NFT ที่คนใน Community จะเข้าไปแย่ง Mint เพื่อให้ได้ NFT มาในระดับราคาแรกเริ่ม ซึ่งเราไม่ควรรีบร้อน และควรปล่อยให้คนอื่น Mint งานไปก่อน จนกว่าจะแน่ใจได้ว่า เว็บของทาง Official เป็นของจริง และไม่ได้เกิดปัญหาในการ Mint งาน และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ เราควรปิดช่องทางข้อความส่วนตัว หรือ Direct Message ใน Discord เพื่อหลีกเลี่ยง Hacker ปลอมตัวเป็น Account ของ Official และส่งข้อความส่วนตัวมาให้เรา
อาจจะดูมีรายละเอียดที่ต้องระวังยุบยิบไปเสียหน่อย แต่ก็เป็นสิ่งที่ควรทำเพื่อรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของเราเอาไว้ หากทำได้ตามคำแนะนำ 5 ข้อดังกล่าวอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทาง "AC News" ขอรับรองว่าผู้อ่านจะสามารถยืนอยู่ในโลกของ Digital Asset ได้อย่างปลอดภัย และนอนหลับสนิทในทุกๆ คืนอย่างแน่นอน
ข่าวเด่น