ก.ล.ต. สั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นนักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน รายนายพิศิษ ศิริสุวรรณ (นายพิศิษ) กรณีแสวงหาประโยชน์จากผู้ลงทุนโดยอาศัยโอกาสในการปฏิบัติงาน จากการชักชวนลูกค้าให้ร่วมลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีของตนเอง เพื่อแบ่งผลกำไรกับลูกค้า ขณะกระทำผิดเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุนอิสระของบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (บล. ไทยพาณิชย์)
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานข้อร้องเรียนจาก บล. ไทยพาณิชย์ และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างเดือนมีนาคม - เดือนเมษายน 2564 นายพิศิษ* ได้ชักชวนลูกค้ารายหนึ่งให้ร่วมลงทุนซื้อหลักทรัพย์ที่ออกเสนอขายต่อประชาชนครั้งแรก (หุ้น IPO) และหุ้นอื่นในบัญชีของนายพิศิษ โดยมีหนังสือข้อตกลงร่วมลงทุนกับลูกค้า เพื่อกำหนดคืนเงินต้นพร้อมส่วนแบ่งผลกำไรให้แก่ลูกค้า และได้แจ้งลูกค้าให้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารส่วนตัวของนายพิศิษ เพื่อนำเงินดังกล่าวไปลงทุนตามข้อตกลง แต่นายพิศิษไม่ทำตามข้อตกลงโดยทยอยคืนเงินให้แก่ลูกค้าเพียงบางส่วนทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหาย
ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า นายพิศิษไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน** ก.ล.ต. จึงพักการให้ความเห็นชอบเป็นนักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน***และผู้วางแผนการลงทุน**** ของนายพิศิษ เป็นเวลา 1 ปี แต่เนื่องจากระยะเวลาการให้ความเห็นชอบดังกล่าวของนายพิศิษ มีอายุถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จึงพักการให้ความเห็นชอบถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของนายพิศิษเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป ต่อเนื่องจากวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จนครบกำหนด 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2565
ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดโทษ ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. ด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนมาประกอบการพิจารณาแล้วด้วย
ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อการชักชวนในการซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีของบุคคลอื่นที่มิใช่บัญชีตนเอง หรือการชักชวนให้โอนเงินซื้อขายหลักทรัพย์เข้าบัญชีส่วนตัวของนักวิเคราะห์การลงทุนหรือ
ผู้แนะนำการลงทุน เพราะอาจเป็นช่องทางให้มีการทุจริตและอาจสูญเสียเงินจำนวนมากได้
______________________
*กรณีนี้บริษัทแจ้งปฏิบัติหน้าที่นายพิศิษเป็น “ตัวแทนในการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน” ในฐานะตัวแทนบุคคลเท่านั้น
**ข้อ 23(1) เป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามข้อ 31(1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 8/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 48/2560 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560
*** นักวิเคราะห์การลงทุน หมายถึง บุคคลที่ให้คำแนะนำการลงทุนแก่ผู้ลงทุนซึ่งสามารถวิเคราะห์การลงทุนประกอบการให้คำแนะนำได้ ซึ่งได้แก่ การวิเคราะห์ หรือการให้คำแนะนำเกี่ยวกับคุณค่าหรือความเหมาะสมในการซื้อขายหรือลงทุนในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐานหรือการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยทางเทคนิค
****ผู้วางแผนการลงทุน หมายถึง บุคคลที่ให้คำแนะนำการลงทุนแก่ผู้ลงทุนซึ่งสามารถวางแผนการลงทุนประกอบการให้คำแนะนำได้ ซึ่งได้แก่ การใช้ข้อมูลของลูกค้าแต่ละราย ในเชิงลึก เพื่อนำมาประกอบกับการวางแผนและให้คำแนะนำการลงทุนในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน แบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งสอดคล้องกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และวัตถุประสงค์การลงทุนของลูกค้าแต่ละราย
ข่าวเด่น