ทำไมเพื่อนบางคนใช้จ่ายเงินทองได้อย่างอิสระกว่าเรา ทั้งที่อายุก็ใกล้กัน ทำงานเงินเดือนก็ใกล้เคียงกัน”
นั่นก็เพราะเค้าเข้าใจว่า การสร้างความมั่งคั่งและรายได้ไม่ได้มาจากการใช้แรงทำงานเท่านั้น ทุกคนสามารถสร้างรายได้ด้วยแนวทางอื่น ๆ เช่น การนำเงินไปลงทุน หรือพูดง่ายๆ ว่า “ให้เงินทำงานแทนเรา” เพื่อสร้างรายได้ที่เรียกว่า Passive Income เช่น เงินปันผลที่ได้รับจากการลงทุนในกองทุนรวม
ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวมก็คือ จะมีมืออาชีพอย่างผู้จัดการกองทุนคอยบริหารเงินลงทุนของเราให้งอกเงย ไม่ว่าจะมีเงินน้อยเงินมากก็ลงทุนได้ โดยจะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น ตราสารหนี้ หุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ ตามนโยบายการลงทุนที่กองทุนกำหนดไว้
เมื่อกองทุนรวมเติบโตและได้รับผลกำไร ก็จะนำเงินนั้นมาปันผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน นี่แหละคือรายได้เสริมจากเงินลงทุน โดยที่เราไม่ต้องลงแรงทำงานให้เหนื่อยเลย และเมื่อสะสมหน่วยลงทุนได้จำนวนมาก ก็จะทำให้มีรายได้ประจำจากการลงทุนหรือ Passive Income เพื่อใช้จ่ายในยามเกษียณหรือในวันที่หยุดทำงานได้
เริ่มวางแผนสร้างความมั่งคั่งด้วยกองทุนรวมตั้งแต่วันนี้ ด้วย “4 ขั้นตอน สร้าง Passive Income จากกองทุนรวมปันผล” ดังนี้
1.กำหนดเป้าหมายเป็นจำนวนเงินปันผล
เช่น เป้าหมายคือ ต้องการมีเงินปันผลเดือนละ 10,000 บาทหรือปีละ 120,000 บาท และคิดว่าการลงทุนในกองทุนรวมจะได้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผลคิดเป็น 6% ต่อปี ดังนั้น เราก็ต้องมีเงินลงทุนเป็นเงินต้นอย่างน้อย 2,000,000 บาทขึ้นไป จึงจะได้รับเงินปันผลตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ หรือถ้าต้องการเงินปันผลต่อเดือนมากขึ้น ก็ต้องเพิ่มเงินต้นให้มากขึ้น หรือเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่คาดหวังว่าจะให้ผลตอบแทนสูงขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมประเมินระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเองด้วย
2.วางแผนออมเงินและต่อยอดลงทุน
เพื่อสะสมเงินลงทุนเป็นเงินต้นที่สามารถสร้างเงินปันผลให้เราได้ตามเป้าหมาย เช่น ต้องการเงินต้นจำนวน 2,000,000 บาท วางแผนการออมให้ได้เดือนละ 5,000 - 10,000 บาท และทยอยลงทุนในกองทุนรวมตามเป้าหมาย สำหรับคนที่มีความพร้อมและเริ่มออมก่อนก็จะสามารถต่อยอดการลงทุนไปถึงจำนวนเงินเป้าหมายได้เร็วกว่า
3.เลือกกองทุนรวมที่มีผลการดำเนินงานดีและจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ
เช่น กองทุนรวมหุ้นปันผล กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) แบบมีเงินปันผล ซึ่งให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมอีกด้วย
4.สร้างวินัยในการลงทุนอยู่เสมอ
ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องและเพิ่มจำนวนเงินลงทุนให้มากขึ้นตามรายได้ของเราที่เพิ่มขึ้น เช่น ในทุกปีกำหนดให้เพิ่มเงินลงทุนอย่างน้อย 10% ต่อเดือน หรือกำหนดให้เพิ่มเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาทต่อเดือน เพียงแค่นี้ก็จะสามารถต่อยอดการลงทุนให้ประสบความสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น และท้ายที่สุดแล้วก็จะยิ่งได้รับเงินปันผลมากขึ้นจากจำนวนเงินต้นที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
ตัวอย่าง : เป้าหมายคือ สะสมเงินต้นเป็นมูลค่าเงินลงทุนในกองทุนรวมหุ้นปันผล 2,000,000 บาท เพื่อจะได้รับเงินปันผลเดือนละ 10,000 บาท
แผนออมเงิน : ในที่นี้ขอยกตัวอย่างแผนการออมเงิน 3 วิธี ให้เลือกวิธีที่เหมาะสมกับฐานะการเงินของเรา
• วิธีที่ 1 ออมเงินเท่ากันทุกเดือน เดือนละ 5,000 บาท จะใช้ระยะเวลา 17 ปี 4 เดือน
• วิธีที่ 2 เริ่มต้นออมเดือนละ 5,000 บาท และเพิ่มเงินลงทุนอย่างน้อย 10% ต่อเดือนทุกปี จะใช้ระยะเวลา 12 ปี 2 เดือน
• วิธีที่ 3 เริ่มต้นออมเดือนละ 5,000 บาท และลงทุนเพิ่มเดือนละ 2,000 บาททุกปี จะใช้ระยะเวลา 9 ปี 2 เดือน
หมายเหตุ : คำนวณจากผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นแบบอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ตั้งแต่ปี 2553 – 2563 อยู่ที่ 6.96% ต่อปี
จะเห็นว่า คนที่ออมเงินอย่างสม่ำเสมอและมีการเพิ่มเงินลงทุนทุกปี จะไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่า และหากเราพอใจในเงินปันผลที่จะได้รับเดือนละ 10,000 บาทแล้ว ก็เลือกได้ว่าจะลงทุนต่อในกองทุนรวมนั้น ๆ ให้ได้เงินต้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หรือจะปล่อยให้เงินลงทุนที่มีเติบโตและสร้างรายได้ประจำให้เราต่อไป
การสร้าง Passive Income หรือเครื่องผลิตเงินที่เกิดจากการออมและการลงทุน สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่วันนี้ ด้วยการศึกษาข้อมูลกองทุนรวมที่น่าสนใจและเหมาะสมกับตัวเรา ที่สำคัญคือ ต้องสร้างวินัยการลงทุนด้วยการทำตามเป้าหมายให้ได้อย่างต่อเนื่องก็จะประสบความสำเร็จได้ตามแผนที่วางไว้
ข่าวเด่น