คาด SET มีโอกาสเกิดการรีบาวด์ทางเทคนิค หรือแนวรับบริเวณ 1640-1650 จุด คาดเป็นจุดรองรับได้ในช่วงนี้ เพื่อฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ตลาดยังขาดปัจจัยหนุน และในภาพรวมยังมี downside อยู่ ด้วยปัจจัยลบหลักจากการที่เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย และลดขนาดงบดุล ทำให้การฟื้นตัวจำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1670 และ 1683 จุด ตามลำดับกลยุทธ์ Selective Buy ในหุ้นเชิงรับที่มีคุณภาพ มีปัจจัยบวกเฉพาะ เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน
ประเด็นสำคัญ
# ตลาดหุ้นสหรัฐ-ยุโรปฟื้น ราคานามันร่วงตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นท่ามกลางความผันผวน โดย Microsoftและ Visa รายงานงบดีกว่าคาด แต่ Alphabet และ Boeingรายงานงบแย่กว่าคาด ด้านตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัว ส่วนราคาน้ำมันปรับลดลงจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น
# เงินบาทเทียบดอลลาร์ทาสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปี ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง จากการที่ นลท. มาถือครองดอลลาร์มากขึ้น ท่ามกลางความกังวล ศ.ก. จีนชะลอตัว และสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนที่ยังตึงเครียด คาดว่าเงินบาทจะชะลอการอ่อนค่าช่วงการประชุม FOMC 3 – 4 พ.ค. ซึ่งคาดว่า Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5%
# สศค.ปรับลด GDP ปีนี เหลือ 3.5% จากเดิมคาด 4%เนื่องจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ทำให้เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าไทยชะลอตัว โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้เป็น 5%YoY จากราคาพลังงานที่พุ่งสูง ส่วนเงินบาทคาดปีนี้อ่อนค่าลง 3.4%YoY
ล็อคเป้ำลงทุน
> ช่วงสั้นมองการฟื้นตัวของ SET ยังจากัดที่บริเวณ 1,700-1,718 จุด และมีโอกาสอ่อนตัวลงจากปัจจัยเสี่ยงภายนอกเป็นสาคัญ เช่น การดาเนินนโยบายการเงินที่ตึงตัวของเฟด, ความกังวลStagflation และสถานการณ์โควิดในจีน รวมทั้งราคาน้ำมันที่คาดยังทรงตัวสูงซึ่งทำให้ตลาดมี Downside Risk จากการปรับลดประมาณการแนวโน้มกำไรลงในระยะถัดไป กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ Selective Buy ในหุ้นเชิงรับที่มีคุณภาพ และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะ ดังนี้
> Core Portfolio : คงน้ำหนักพอร์ตที่ 50% โดย Let Profit Run หุ้นที่ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเติบโตดี มีผลกระทบจากัดจากปัจจัยภายนอกอย่าง KBANK AMATA LH GULF ADVANC
> Weekly Portfolio : เก็งกำไร 25% ใน 1) หุ้นท่องเที่ยวที่ได้อานิสงส์บวกรัฐคลายมาตรการเข้าประเทศ (ยกเลิก Test&Go) ตั้งแต่ 1 พ.ค. เลือก AOT ERW AWC CENTEL CPALL BJC 2) หุ้นเครื่องดื่มซึ่งมองตลาดปรับลดประมาณการสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว และ 2Q65 คาดกำไรดีขึ้น YoY และ QoQ เลือก CBG OSP และ 3) หุ้นที่คาดงบ 1Q65 เติบโตดี เลือก BH HMPRO PTT
> ช่วงสั้นเพิ่มความระมัดระวังลงทุนหุ้นกลุ่มขนส่ง, ยานยนต์, วัสดุก่อสร้าง, โรงไฟฟ้า, อสังหาฯ, บรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีโอกาสถูก Downgrade Earnings หลังประกาศงบ 1Q65 เนื่องจากมีความเสี่ยงต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น โดย กบน. มีมติลดการชดเชยราคาดีเซลและปรับขึ้นราคาแบบขั้นบันไดตั้งแต่ 1 พ.ค. ซึ่งกำหนดเพดานใหม่จะไม่เกินลิตรละ 35 บาท จากเดิมที่ตรึงไว้ไม่เกินลิตรละ 30 บาท
> Daily Focus : AWC ปี 65 คาดขาดทุนปกติลดลงจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวและกิจกรรมเศรษฐกิจที่ดีขึ นส่งผลบวกต่อธุรกิจอสังหาฯ อีกทั งราคาหุ้นยังต่ำกว่าก่อนเกิด COVID-19 อยู่ 12% และ PTTEP คาด 1Q65 เป็นจุดต่าสุดของกำไรปีนี จากมีบันทึกรายการพิเศษ ช่วงที่เหลือของปีนี จะได้ประโยชน์จากราคานามันที่ปรับขึ น ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI +0.3%DoD
Wealth Strategy
แนะนำหุ้นกู้ตลาดรองที่น่าสนใจ IRPC หุ้นกู้ บริษัท ไออาร์พีซี จากัด (มหาชน) อายุคงเหลือประมาณ 1.5 ปี อันดับ เครดิตหุ้นกู้ระดับ “A-(tha)” เสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป และ CPF หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) อายุคงเหลือประมาณ 2 ปี อันดับเครดิตหุ้นกู้ระดับ “A+” เสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป
ข่าวเด่น