ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังตลาดยังคงกังวลอุปทานน้ำมันดิบและน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรการปฎิบัติการพิเศษด้านการทหารของรัสเซียในยูเครน ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบของคลังสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงกว่า 2.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่ระดับ 553.1 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดตั้งแต่ ม.ค. 2545
Gazprom บริษัทยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ระงับส่งก๊าซไปยังโปแลนด์-บัลแกเรีย ในวันพุธที่ผ่านมา หลังทั้งสองประเทศปฎิเสธที่จะจ่ายค่าก๊าซให้กับรัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิล จากมาตรการการคว่ำบาตรของกลุ่มประเทศยุโรป โดยท่อขนส่งแก๊สคิดเป็นอุปทานร้อยละ 40 ของความต้องการในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเยอรมนี ฮังการี และเซอร์เบีย อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีข่าวว่าการขนส่งก๊าซไปยังโปแลนด์กลับมาใช้ได้อีกครั้งแล้ว แต่ยังต้องจับตาใกล้ชิด
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 22 เม.ย. 65 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 0.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 414.4 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล และปริมาณผลิตภัณฑ์กลุ่ม Distillate คงคลังปรับลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นในอินโดนีเซียและมาเลเซีย เนื่องจากใกล้จบเทศกาลถือศีลอด รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดกังวลการระงับการส่งก๊าซไปยังโปแลนด์-บัลแกเรีย ขณะที่อุปสงค์การใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคฟื้นตัวขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างเมือง
ข่าวเด่น