โลตัส ชูสินค้าภายใต้แบรนด์ “คุ้มค่า” สินค้า house brand คุณภาพดี ในราคาที่คุ้มค่า คัดของกินของใช้จำเป็นทั้งหมด 95 รายการ เริ่มต้นเพียง 8 บาท จำหน่ายในโลตัส ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ ช่วยประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจและการขยับขึ้นราคาสินค้า เพิ่มทางเลือกสินค้าราคาสุดคุ้มครอบคลุมหลายหมวดหมู่ ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคในครัวเรือน และสินค้าจำเป็นในร้านค้าร้านอาหารสำหรับผู้ประกอบการ
นางวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส กล่าวว่า “จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันประกอบกับการปรับขึ้นราคาสินค้า ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชนและต้นทุนของผู้ประกอบการขนาดเล็ก สวนดุสิตโพล ได้มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่องความหนักใจของคนไทย พบว่า เรื่องที่ประชาชนหนักใจมากที่สุด อันดับ 1 คือ ของแพง น้ำมันแพง ค่าครองชีพสูง ถึงร้อยละ 89.73 และร้อยละ 80.97 ให้เหตุผลที่ทำให้หนักใจว่า ทุกอย่างขึ้นราคา โลตัส ตระหนักถึงความกังวลของผู้บริโภค จึงได้พัฒนากลุ่มสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ภายใต้แบรนด์ “คุ้มค่า” โดยเราคัดเลือกสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพและวัตถุดิบสำคัญสำหรับผู้ประกอบการทั้งหมด 95 รายการ ในราคาที่คุ้มค่า โดยยังคงมาตรฐานด้านคุณภาพ เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้ประชาชนที่ได้ได้รับผลกระทบจากสินค้าจำเป็นที่มีราคาสูง รวมถึง ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ที่สามารถซื้อวัตถุดิบแบรนด์คุ้มค่า เพื่อควบคุมต้นทุนสินค้าและต่อยอดในการสร้างรายได้ต่อไป”
รายการสินค้าตราคุ้มค่าที่โลตัสนำมาเสนอในครั้งนี้รวม 95 รายการ อาทิ
คุ้มค่า ข้าวเสาไห้ 35% 5 กก. ราคา 95 บาท
คุ้มค่า ผงซักฟอก 2,700 กรัม ราคา 89 บาท
คุ้มค่า ซอสพริกศรีราชา 750 กรัม ราคา 20 บาท
คุ้มค่า ไส้กรอก 1 กก. ราคา 69 บาท
คุ้มค่า ลูกชิ้นหมูผสมไก่ 900 กรัม ราคา 119 บาท
คุ้มค่า น้ำยาล้างจานกลิ่นมะนาว 400มล. ราคา 8 บาท
คุ้มค่า กระดาษชำระ 24 ม้วน ฟรี 6 ม้วน ราคา 93 บาท
คุ้มค่า ซอสหอยนางรม 1 กก. ราคา 24 บาท
คุ้มค่า น้ำจิ้มไก่ 3.5 กก. ราคา 105 บาท
“โลตัสพัฒนาสินค้าแบรนด์คุ้มค่า ขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า โดยเราให้ความสำคัญกับมาตรฐานทั้งในด้านคุณภาพและความปลอดภัย ใช้วัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน แต่ยังคงความคุ้มค่า เหมาะกับการอุปโภคบริโภคภายในครัวเรือน สำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร โดยผู้ผลิตสินค้าแบรนด์คุ้มค่าส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอีไทย จึงนับเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอีกด้วย นอกเหนือจากการช่วยให้พี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยได้ประหยัดท่ามกลางสภาวะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น” นางวรวรรณ กล่าวสรุป
*ข้อมูลการสำรวจจากสวนดุสิตโพล ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี ความหนักใจของคนไทย ณ วันนี้ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,047 คน สำรวจระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคม 2565
ข่าวเด่น